มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัว ‘All – New Mitsubishi XFORCE HEV’ ยกระดับทุกการขับขี่ สนุก เร้าใจ ขับเคลื่อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ทุกเส้นทาง
หลังจากเปิดตัว Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV ในฐานะรถยนต์ Full Hybrid EV รุ่นแรกของมิตซูบิชิ และได้รับการยอมรับเรื่องความคล่องตัว จนกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ชาวไทยเป็นอย่างดี
ล่าสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สานต่อความสำเร็จด้วยการเปิดตัว ‘All-New Mitsubishi XFORCE HEV’ รถยนต์ Full Hybrid เจเนอเรชันใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เร้าใจ สนุก และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้
โดย All-New Mitsubishi XFORCE HEV เกิดจากแนวคิดที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่ไม่ได้ต้องการเพียง ‘สมรรถนะ’ แต่ต้องการ ‘ประสบการณ์’
All-New Mitsubishi XFORCE HEV ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบ ‘MITSUBISHI e:MOTION’ โดยการผสาน 3 เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน คือ ‘NEW GENERATION HEV’ ที่พัฒนาให้ทรงพลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ให้การส่งกำลังลื่นไหล ด้วยระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle ใหม่ ตอบสนองรวดเร็ว ลดการสูญเสียพลังงานและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร
พร้อมทั้ง ‘7 DRIVE MODE’ ที่ออกแบบมาเพื่อถนนเมืองไทย โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยตนเองตามสภาพถนน เสริมด้วย ‘Active Yaw Control’ (AYC) เทคโนโลยีควบคุมสมดุลขณะเข้าโค้ง ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่มั่นคงและปลอดภัย ไม่ว่าจะฝนตก ถนนลูกรัง หรือการขับขี่ในเมือง ก็มั่นใจได้ทุกเส้นทาง
นอกจากสมรรถนะที่เหนือชั้น All-New Mitsubishi MITSUBISHI XFORCE HEV ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สะท้อนตัวตน ด้วยแนวคิด ‘Silky & Solid’ ที่รวมความโฉบเฉี่ยวและความแข็งแกร่งไว้ในคันเดียว ตั้งแต่ไฟหน้า LED แบบ T-SHAPE ไปจนถึงไฟท้าย LED สี Smoke พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เพิ่มความโดดเด่นทุกการขับขี่
ตอบโจทย์ความสปอร์ตและความหรูหราด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างที่สุดในกลุ่ม SUV พร้อมการตกแต่งสีทูโทน ‘Mélange Mocha’ เสริมด้วยคอนโซลหน้าที่ตกแต่งด้วยวัสดุพิเศษ หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่ล้ำสมัย และ Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เข้ากับทุกอารมณ์
ยกระดับการขับขี่ด้วยการผสานระบบเสียง Dynamic Sound YAMAHA Premium ที่มาพร้อมลำโพงทั้ง 8 ตัว และปรับได้ถึง 4 โหมดเสียง เพื่อให้คุณสัมผัสกับเสียงรอบทิศทางระดับคอนเสิร์ต
สิ่งที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความสำคัญตลอดมา คือ ‘ความปลอดภัย’ All-New Mitsubishi XFORCE HEV จึงมาพร้อมเทคโนโลยีปกป้องรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองภาพ 360 องศา (Multi Around View Monitor) ที่ช่วยให้การจอดง่ายขึ้น หรือถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ที่ให้การปกป้องรอบด้าน และยังมีระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ล่วงหน้าเมื่อมีความเสี่ยงหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง
All-New Mitsubishi XFORCE HEV จึงเป็นการออกแบบประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ทุกมิติ ตั้งแต่สมรรถนะ เทคโนโลยี ไปจนถึงดีไซน์และความปลอดภัย เพื่อให้ทุกเส้นทาง ลื่นไหล มั่นใจ และขับเคลื่อนความรู้สึกของคนเจนใหม่ได้เป็นอย่างดี
ก้าวสู่ยุคใหม่ของ SUV ฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ กับ ‘All-New Mitsubishi XFORCE HEV’ พลังที่เร้าใจ ดีไซน์ที่ล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ไนทุกเส้นทาง!
MITSUBISHI e:MOTION หัวใจสำคัญของ All-New Mitsubishi XFORCE HEV ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะที่สร้างประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ รวม 3 เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่
- NEW GENERATION HEV ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ – ให้การขับขี่ที่ทรงพลัง และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
- 7 DRIVE MODE – ปรับการขับขี่ให้เข้ากับทุกสภาพถนนโดยอัตโนมัติ
- AYC (Active Yaw Control) – ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง เพิ่มความมั่นใจทุกเส้นทาง
All-New Mitsubishi XFORCE HEV ถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบใหม่ ‘Silky & Solid’ ที่ผสานความโฉบเฉี่ยวเข้ากับพลังที่แข็งแกร่ง พร้อมโลดแล่นทั้งในเมืองและนอกเมืองอย่างมีสไตล์
All-New Mitsubishi XFORCE HEV พลังขับเคลื่อนที่เร้าใจขึ้น นุ่มนวลขึ้น และประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม พร้อม 2-Speed Transaxle ที่ช่วยให้การเร่งความเร็วราบรื่นและเงียบยิ่งขึ้น!
‘Dynamic Sound YAMAHA Premium’ ระบบเสียงคุณภาพสูงจาก YAMAHA ด้วยลำโพงที่ถูกติดตั้งรอบคันทั้ง 8 ตัว ทวิตเตอร์คู่หน้าที่ถูกติดตั้งบริเวณเสาหลังคา (A-Pillar) ลำโพงวูฟเฟอร์ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูคู่หน้า และลำโพงโคแอกเซียล (Coaxial) แบบ 2 ทาง ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้รับคมชัดระดับคอนเสิร์ต
All-New Mitsubishi XFORCE HEV มาพร้อมกับกระจังหน้า Dynamic Shield 3D ที่ดีไซน์ให้กลมกลืนกับกันชนหน้า เสริมความสปอร์ตและเพิ่มมิติของความลึก ด้านข้างโดดเด่นด้วยเส้นสายแบบ 3 มิติ ที่สะท้อนถึงความโฉบเฉี่ยวและแข็งแกร่ง ปิดท้ายด้วย ไฟหน้า LED Daytime Running Light และไฟท้าย Smoke LED ทรง T-Shape ที่เพิ่มความมั่นคงและเป็นเอกลักษณ์ในทุกเส้นทาง
และมีให้เลือกถึง 8 สี ทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน ให้คุณขับขี่อย่างมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง
ดีไซน์ภายในที่รวมทั้งความสปอร์ตและความลักชัวรี ออกแบบให้ห้องโดยสารกว้าง พรีเมียมทุกสัมผัส ตกแต่งภายในด้วยสีทูโทน Mélange Mocha หรูหรา พร้อมการตกแต่งด้วยผ้าแบบพิเศษกันน้ำ และคราบสิ่งสกปรก เดินทางสะดวกสบายกับพื้นที่กว้างขวาง รองรับ 5 ที่นั่ง เบาะหลังพับปรับได้แบบ 40:20:40 และเอนได้ถึง 8 ระดับ
หน้าจอแสดงผลการขับขี่ LCD ขนาด 8 นิ้ว ที่ออกแบบมาเพื่อแสดงข้อมูลเฉพาะสำหรับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นการดูสถานะพลังงาน Eco, Power และ Charge ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ และอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อม 2 โหมดการแสดงผลที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่
มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง และ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฮบริดโดยเฉพาะ ผสานการทำงานกับ เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC DOHC 16 วาล์ว ให้อัตราเร่งที่ราบรื่น ทรงพลัง และตอบสนองฉับไว
พร้อมเป็นเจ้าของ All-New Mitsubishi XFORCE HEV กับ 3 รุ่นย่อย ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
- Ignite – ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท (White Diamond / Blade Silver / Graphite Grey)
- Ultimate – ราคาเริ่มต้น 1,039,000 บาท (White Diamond (หลังคาดำ) / Blade Silver / Graphite Grey / Jet Black Mica)
- Ultimate X – ราคาเริ่มต้น 1,089,000 บาท (White Diamond (หลังคาดำ) / Graphite Grey (หลังคาดำ) / Energetic Yellow (หลังคาดำ) / Spirit Red (หลังคาดำ) / Jet Black Mica)
เลือกสีที่ใช่ ขับขี่ในแบบที่เป็นคุณ!