2 Min

สับสน! สาวกลืน ‘Airpods’ เพราะคิดว่าเป็น ‘ยาแก้ปวด’ และเรื่องนี้อาจเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราคิด

2 Min
205 Views
30 Nov 2021

หลายครั้งที่เราเผลอทำอะไรที่ไม่ได้ตั้งใจเช่นเผลอทิ้งของขวัญลงถังขยะ บีบยาสีฟันมาล้างหน้า หรือเผลอกลืนอะไรต่อมิอะไรลงคอ

ล่าสุด คาร์ลี เบลเมอร์ (Carli Bellmer) สาวอเมริกันวัย 27 ปีจากบอสตันได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดระทึกของตัวเองบนแอปพลิเคชัน TikTok ว่า เธอเผลอกินแอร์พอด (Airpods) หูฟังไร้สายจากค่ายแอปเปิลเข้าไปโดยคิดว่ามันเป็นยาแก้ปวดไอบูโพรเฟน!!!

เบลเมอร์เล่าว่าระหว่างที่กำลังขึ้นเตียง มือข้างหนึ่งของเธอกำเม็ดยา อีกข้างถือหูฟังแอร์พอด และแทนที่จะกินยากลับเผลอตบหูฟังเข้าปากและกลืนลงท้องไปเสียอย่างนั้น จากนั้นเธอพยายามอาเจียนออกมาแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจอัดคลิปเพื่อเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นฟังไว้เป็นกรณีศึกษา เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอแค่คนเดียว และไม่น่าจะใช่กรณีสุดท้าย

คลิปนี้กลายเป็นไวรัลทันที ส่วนเบลเมอร์ก็อัปเดตสถานการณ์ให้ผู้ติดตามเป็นระยะ ที่น่าสนใจคือแอร์พอดยังทำงานและเชื่อมต่อกับมือถือจากในท้องเธอด้วย เบลเมอร์จึงทำการบันทึกเสียงขลุกขลักจากในท้องของตัวเองเพื่อส่งให้เพื่อนๆ เสียเลย

โชคเข้าข้างหลังจากไปพบแพทย์และทำการเอกซเรย์ในเวลาต่อมา เบลเมอร์พบว่าเธอได้ขับถ่ายเอาแอร์พอดออกจากท้องเป็นที่เรียบร้อย และมันไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แบรด กัวติเยร์ (Brad Gauthier) จากรัฐแมสซาชูเซตส์ ก็มีประสบการณ์เผลอกลืนแอร์พอดเข้าไประหว่างนอนหลับโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่กรณีของเขาถือว่าเลวร้ายกว่าเบลเมอร์มาก เพราะกัวติเยร์สะดุ้งตื่นเนื่องจากหายใจลำบาก สุดท้ายต้องผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อเอาหูฟังออกจากหลอดอาหาร

ปีก่อนหน้านี้ยังมีเรื่องราวการกลืนหูฟังของเด็กชายวัย 7 ขวบในรัฐจอร์เจียที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แม้เราจะไม่รู้สถานการณ์ว่าเขากลืนมันเข้าไปเพราะเหตุใด แต่โชคดีที่มันถูกขับออกมาจากระบบขับถ่าย เช่นเดียวกับกรณีของหนุ่มชาวไต้หวันที่กลืนแอร์พอดเข้าไป แต่เขาโชคดีกว่าตรงที่มันยังสามารถใช้งานได้หลังอึออกมา

นี่เป็นเพียงกรณีตัวอย่างเท่านั้น เชื่อว่าทั่วโลกมีอุบัติเหตุการณ์กลืนหูฟังไร้สายมากกว่านี้อย่างแน่นอน และมันอาจเป็นอันตรายได้หากหูฟังไปติดอยู่ที่หลอดลมจนทำให้หายใจไม่ออก

หูฟังไร้สายถือเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ง่ายและพกพาสะดวก แต่ดูเหมือนว่าบางครั้งผู้ผลิตอาจต้องคำนึงถึงความปลอดภัยที่ไม่คาดฝันมากกว่าปัจจุบัน ขณะเดียวกันนี้คน Gen Z จำนวนมากเริ่มกลับมาให้ความนิยมหูฟังแบบมีสายอีกครั้งในฐานะไอเท็ม ‘เท่ๆ ’ ของคนรุ่นใหม่ และเป็นสัญลักษณ์ของการ ‘ห้ามรบกวน’ ด้วยราคาที่เป็นมิตรมากกว่าหูฟังแบบไร้สายที่อาจกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีภาพลักษณ์ของคนทำงานแทน

จากกรณีเบลเมอร์และอีกหลายคนที่กลืนหูฟังไร้สายเข้าไป อาจเพิ่มข้อดีให้คนกลับมาสนใจหูฟังมีสายอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ามัน ‘กลืนยาก’ กว่ากันมาก

อ้างอิง: