เครื่องบินรบมี ‘ชักโครก’ อยู่ใต้ปีก! ดีไซน์แบบนี้เพื่ออะไร? ที่จริงคือการรำลึกถึงนักบินใน ‘สงครามเวียดนาม’
ในพิธีประดับยศทหารในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2022 มีเรื่องฮือฮาเกิดขึ้นภายในกลุ่มคนที่ชื่นชอบเครื่องบินรบ เพราะระหว่างที่มีพิธีอย่างเป็นทางการได้มีการนำเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่มาตกแต่งและร่วมโชว์ในงานนั้นด้วย
สิ่งที่ไม่ปกติคือเครื่องบินที่ร่วมโชว์ลำหนึ่งมี ‘ชักโครก’ ติดหางเลียนแบบขีปนาวุธประดับอยู่ใต้ปีกเครื่องอย่างโดดเด่นเป็นสง่า และหลังจากนั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์ก็นำเรื่องนี้มารายงานต่อ
คอลัมนิสต์ของ The Drive บอกเล่าว่าเครื่องบินที่ถูกนำมาติดตั้งชักโครกคือเครื่องบินขับไล่รุ่น F/A 18 ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Boeing ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Super Hornet และเป็นเครื่องที่เพิ่งส่งมอบให้กับฐานทัพเลอมัวร์ของกองทัพเรือในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ไม่นาน
ส่วนคำอธิบายสั้นๆ ระบุว่าชักโครกที่ติดอยู่ใต้ปีกเครื่องบินเป็นสิ่งที่นายทหารรุ่นใหม่ต้องการรำลึกถึงอดีตนักบินจากหน่วยเดียวกันที่เคยรบในสงครามเวียดนาม
ถ้าใครสนใจประวัติศาสตร์ก็จะรู้ว่าสงครามเวียดนามนั้นกินเวลากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 1954-1975 ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ส่งทหารอเมริกันไปร่วมรบกับรัฐบาลเวียดนามใต้ที่สหรัฐฯ หนุนหลัง เพราะไม่ต้องการให้ ‘กองทัพประชาชน’ ซึ่งมีฐานที่มั่นในเวียดนามเหนือแผ่ขยายอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี การส่งทหารอเมริกันไปร่วมในสงครามเวียดนามก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหนาครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพสหรัฐฯ ก็ว่าได้ เพราะสุดท้ายแล้วป้องกันไม่ให้เวียดนามทั้งประเทศกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ‘ไม่ได้’ อยู่ดี
ถึงอย่างนั้นก็ตาม วีรกรรมของทหารอเมริกันช่วงสงครามเวียดนามถูกนำมาบอกเล่าหลายต่อหลายเรื่องในหนังสงครามและการบันทึกหลักฐานของกองทัพสหรัฐฯ เอง และหนึ่งในนั้นก็คือภารกิจขับเครื่องบินทิ้งสิ่งที่เรียกว่า Toilet Bomb
ช่วงเวลานั้นสงครามเวียดนามดำเนินมาได้ราว 10 ปี และคนอเมริกันก็เคลื่อนไหวต่อต้านการทำสงครามในต่างแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการประท้วงใหญ่ เพราะผู้ประท้วงมองว่าการส่งทหารอเมริกันไปเวียดนามนั้นเข้าข่าย ‘การรุกราน–แทรกแซง’ ประเทศอื่นชัดเจน ทั้งยังทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียชีวิตของเหล่าทหารไปอย่างไม่คุ้มค่า
ทหารอเมริกันที่ถูกส่งมาทำภารกิจในเวียดนามก็ได้รับผลพวงจากการประท้วงเหล่านี้ด้วย เพราะมีคำสั่งที่กระทบต่อการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ทำให้หลายๆ ปฏิบัติการขาดแคลนอาวุธที่จะใช้ต่อสู้ และระหว่างนั้นรัฐบาลก็ไม่ได้มีการประกาศยุติสงครามหรือสั่งถอนทหารอย่างเป็นทางการ คนที่ยังอยู่ในหน้าที่ก็ยังต้องทำหน้าที่สู้รบต่อไป
‘แคลเรนซ์ ดับเบิลยู หรือ ‘บิล’ สต็อดดาร์ท จูเนียร์’ (Clarence W. Stoddard Jr.) นายทหารยศนาวาโท และนักบินของหน่วย VA-25 ของฐานทัพเลอมัวร์ในยุคนั้น ก็เลยเอาชักโครกพังๆ ที่จะต้องทิ้งอยู่แล้วไปติดตั้งกับเครื่องบินทิ้งระเบิด AH-1 และนำขึ้นบินเพื่อปฏิบัติภารกิจโจมตีทางอากาศบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ในเวียดนาม และตั้งชื่อภารกิจนี้แบบขำๆ ว่า ‘ปฏิบัติการเสือกระดาษ’ และทิ้งชักโครกลงลงไปจากอากาศจริงๆ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1965
ภารกิจนี้ถูกบันทึกเป็นวิดีโอโดยกล้องที่ติดตั้งบนเครื่องบินอีกลำหนึ่งของนักบินที่ร่วมปฏิบัติการเดียวกัน และนั่นดูเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นักบินแคลเรนซ์ สต็อดดาร์ท ถูกบันทึกภาพเอาไว้ เพราะเกือบปีต่อมา เขาก็เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจในเดือนตุลาคม 1966
หลังจากนั้นก็มีการเปิดเผยปากคำของทหารผ่านศึกชาวอเมริกันว่าที่จริงแล้ว ‘ชักโครก’ ก็ไม่ใช่สิ่งของเพียงอย่างเดียวที่ถูกทิ้งจากอากาศเพื่อโจมตีศัตรูในเวียดนามเหนือ เพราะยังมี ‘อ่างล้างจาน’ อีกอย่างหนึ่งซึ่งผู้บังคับบัญชารายที่มีตำแหน่งใหญ่ๆและประจำการอยู่ในสหรัฐฯก็ไม่ค่อยพอใจนัก
เพราะการทำแบบนี้มีผลต่อภาพลักษณ์ของกองทัพอเมริกันว่า ‘ไร้ระเบียบวินัย’ และตอนนั้นกองทัพก็ถูกโจมตีหลายข้อหาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อหากระหายสงคราม แทรกแซงอธิปไตยประเทศอื่น ไปจนถึงการสนับสนุนให้เกิด ‘สงครามกลางเมือง’ และทำให้คนอเมริกันต้องตายไปเป็นจำนวนมาก (จากการไปร่วมสู้รบในสงครามต่างแดน)
ส่วนนักบินอเมริกันยุคปัจจุบันที่ติดตั้งชักโครกกับเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ ก็อาจจะไม่ได้คิดถึงผลพวงอันเลวร้ายของสงครามยุคนั้น แต่เพียงต้องการรำลึกถึงอดีตนักบินในตำนานที่อยู่หน่วยเดียวกัน เพราะพวกเขาถือว่าการร่วมรบในสงครามก็คือการ ‘ทำหน้าที่ของตัวเอง’ อย่างเต็มที่
อ้างอิง
- The Drive. Here’s Why A Toilet Is Hanging On A Navy F/A-18 Super Hornet’s Wing. https://bit.ly/3Ul6Gcq
- Business Insider. That time a Navy squadron bombed North Vietnam with a toilet. https://bit.ly/3qPVeYC
- The Aviation Geek Club. THAT TIME A U.S. NAVY A-1H SKYRAIDER DROPPED A “TOILET BOMB” ON NORTH VIETNAM. https://bit.ly/3UpjNcr