2 Min

‘เสียงของเธอจะขับขาน’ ชายญี่ปุ่นใช้เสียงเพลงของภรรยาที่จากไปแล้ว มาสร้าง AI เพื่อร้องเพลงให้ฟังอีกครั้ง

2 Min
411 Views
09 Jul 2023

มัตสึโอะ โคยะ พบกับภรรยาของเขาต้นยุค 1980s ตอนอายุ 18 ปี ทั้งคู่อยู่วงดนตรีเดียวกัน ไปคาราโอเกะด้วยกัน ทำเพลงด้วยกัน แล้วแต่งงานกันในที่สุด …อยู่กินกันอย่างราบรื่น แต่เรื่องราวความรักของทั้งคู่ก็ต้องจบลงในปี 2013 เมื่อภรรยาของมัตสึโอะจากไปก่อนเวลาอันควรในวัย 50 ปี

มัตสึโอะยังคงคิดถึงภรรยาเสมอ และเนื่องจากเขาทำงานด้าน IT เขาจึงพยายามปะติดปะต่อความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อจะ ‘จำลองเสียง’ ของภรรยา จาก 3 บทเพลงที่ได้บันทึกเอาไว้ขณะเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่เทคโนโลยี 10 ปีก่อนไม่เอื้ออำนวย เขาเลยทำไม่สำเร็จ

10 ปีต่อมา มัตสึโอะในวัย 60 ปี (และยังคิดถึงภรรยาเหมือนเดิม) ท่ามกลางเทคโนโลยี AI รวมทั้งเทคโนโลยี AI ‘โคลนเสียง’ ที่เขาเฝ้ารอมาแสนนาน มัตสึโอะนำเอาเสียงของภรรยามาโคลน เพื่อให้ภรรยาร้องเพลงกับเขาอีกครั้ง โดยคราวนี้เขาร้องเป็นเสียงต้นแบบ และเปลี่ยนเสียงตัวเองเป็นเสียงภรรยาและผลออกมาก็น่าพอใจมาก แทร็กเสียงใหม่มีเสียงเหมือนภรรยาของเขาจริงๆ

แต่มัตสึโอะไม่หยุดแค่นั้น เพราะ AI นั้นก็ไม่ได้แค่ ‘โคลนเสียง’ เท่านั้น ในเมื่อยังสามารถนำเอาภาพคนจริงๆ ไปทำโมเดล และสามารถสั่งให้ AI ผลิตภาพใหม่เป็นคนนั้นๆ ในอิริยาบถอื่นๆ ได้เช่นกัน เขาจึงนำภาพของภรรยาไปทำโมเดล และผลิตภาพใหม่ๆ ของภรรยาออกมาจำนวนมาก

เมื่อมีทั้งเสียงและภาพใหม่ๆ ของภรรยาผู้ล่วงลับ มัตสึโอะก็เริ่มทำวิดีโอ ซึ่งตอนแรกมัตสึโอะเป็น YouTuber สายปั่นจักรยานมาก่อน เขาก็เลยเปลี่ยนคอนเทนต์ช่องของตัวเองมาอุทิศให้เป็นคอนเทนต์ ‘เสียงเพลงจากภรรยาผู้ล่วงลับโดย AI’ ซึ่งเราไปชมได้ที่ https://www.youtube.com/@zzo/videos โดยทุกวันนี้เขาก็ได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพราะช่วงหลังมัตสึโอะเองก็ใช้ AI ตัวใหม่ๆ ทำ ‘ภาพเคลื่อนไหว’ ให้ภาพภรรยาขยับปากร้องเพลงได้ ไม่ใช่เป็นเพียงภาพนิ่งเท่านั้น

แน่นอน เรื่องนี้น่าประทับใจ แต่จริงๆ มันยังน่าประทับใจกว่านั้นอีก เพราะเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ญี่ปุ่นมีงานประกวด ‘ศิลปะ AI’ ขึ้น ซึ่งไม่จำกัดสาขา มีคนส่งงานเข้าประกวดกว่า 300 ชิ้น

และก็ไม่ผิดคาดเลยว่า เสียงเพลงจากภรรยาผู้ล่วงลับของมัตสึโอะได้ที่ 1 โดยสิ่งที่ส่งเข้าประกวดคือคลิปภรรยาของเขาร้องเพลง ‘Desperado’ ของ The Eagles (ฟังได้ที่: https://youtu.be/KNyGs0idjeM )

แน่นอน บทเพลงมันไม่มีอะไรหรอก แต่เรื่องราวเบื้องหลังนั้นน่าประทับใจและอบอุ่นหัวใจเป็นที่สุด มันเป็นงานโดย AI ที่ ‘มีความเป็นมนุษย์’ อย่างน่าจับใจในที่มาและที่ไป จึงไม่แปลกเลยที่ผลงานชิ้นนี้ของมัตสึโอะจะคว้ารางวัลที่ 1 ไปได้ในที่สุด

อ้างอิง