3 Min

รู้ไหม ทุกวันนี้เราสร้าง Chatbot ของคนตายได้แล้ว แต่มันสมควรหรือไม่?

3 Min
964 Views
31 May 2022

ปัจจุบันประเด็นจริยธรรมของ AI’ เป็นเรื่องที่พูดถึงกันมากขึ้น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าทุกวันนี้เราต้องเจอ AI ตลอด เพราะมันมีหน้าที่ตั้งแต่เลือกเรื่องราวให้เราดูบนบัญชีโซเชียลมีเดีย หรือจะเป็นการที่มันเริ่มถูกเอาไปใช้ในการประหัตประหารในสงครามแล้ว

แต่เรื่องพวกนี้ก็ยากจะทำให้คนรู้สึกถึงมิติความอ่อนไหวด้านจริยธรรมของการสร้าง AI

และกรณีที่เราอยากจะยกมาก็คือกรณีที่จะทำให้รู้สึกมากกว่าว่าเราอาจต้องคุยกันเรื่องจริยธรรม

เรื่องมีอยู่ว่า หลายคนคงเคยได้ยินโครงการ OpenAI ใช่ไหมครับ (ก็โครงการ AI ที่อีลอน มัสก์ สนับสนุนน่ะแหละ) คือเขาพัฒนาโมเดล AI มาหลายตัว ทำได้หลายอย่างแล้ว และก็เปิดให้คนเอาไปใช้และพัฒนาได้ต่ออย่างเสรี ซึ่งการเอา AI ไปใช้ได้ง่ายๆ แบบหนึ่งเลยคือสร้างแชทบอท’ (Chatbot) หรือบอทที่จะพูดคุยโต้ตอบได้ โดยเราสามารถป้อนข้อมูลตัวอย่างให้มันเลียนแบบตัวตนใครก็ได้ (ถ้าเรามีข้อมูลการแชทกับใครเยอะๆ เราก็จะส่งให้มันจำลองตัวตนได้)

ทีนี้มันมีชายชาวแคนาดาคนหนึ่งชื่อ โจชัว บาร์โบ (Joshua Barbeau) ที่คู่หมั้นตายด้วยโรคตับตั้งแต่เขาอายุ 26 ปี ซึ่งผ่านไป 8 ปีเขาก็ยังทำใจไม่ได้ สุดท้ายเขาเลยเอาข้อมูลของแฟนผู้ล่วงลับของเขาไปใส่ในแชทบอท เพื่อให้ได้คุยกับแฟนสาวของเขาอีกครั้ง โดยเรื่องนี้ถูกนำมาเล่าในพอดแคสต์ของ San Francisco Chronicle ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2021

อาจมีคนทำแบบนี้ก่อนโจชัว แค่เคสนี้ดังมากๆ และทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่าในทางจริยธรรมเราควรไหมที่จะเอาคนตายมาทำแชทบอท?

ที่พูดถึงในทางจริยธรรมก็เพราะว่า ในทางเทคนิคมันทำง่ายมาก และจริงๆ พวกโซเชียลมีเดียทั้งหลายก็มีข้อมูลเราในมือพอที่จะสร้างแชทบอทได้ตลอดเวลาถ้าจะทำ

ทีนี้มันมีคำถามอะไรบ้าง? คำถามพื้นฐานเลยที่อาจต้องถามก็คือคนตายต้องอนุญาตก่อนไหมที่ตัวเองจะถูกเอาไปทำแชทบอท? มันก็จะมีคนพยายามเคลมว่าการทำแบบนี้คือการละเมิดตัวตนถ้าไม่ได้รับอนุญาต แต่ในความเป็นจริง โดยทั่วไปแม้แต่กฎหมายหมิ่นประมาททั่วโลก มันก็ไม่ครอบคลุมถึงคนตาย หรือพูดง่ายๆ ไม่ว่านักสิทธิจะอ้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แค่ไหน แต่สิทธิมนุษยชนของคุณทั้งหลาย ก็จะจบไปพร้อมกับชีวิตของคุณ

ซึ่งนี่ก็คือเรื่องที่ซับซ้อน ถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็คือการทำแชทบอทมันไม่ผิดกฎหมายแน่ๆ ในตอนนี้ เพราะหลักทั่วไปสิทธิต่างๆ ตั้งแต่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ยันความเป็นส่วนตัว ในมาตรฐานปัจจุบันมันจะสิ้นสุดทันทีถ้าเราตาย ดังนั้นเมื่อเราตาย ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดของเราจะเป็นอิสระ ใครจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ รวมไปจนถึงการสร้างแชทบอท ดังนั้นใครก็ตามที่ตายไป ก็จะถูกจับไปทำแชทบอทได้ทันที

ถ้าจะคิดต่อจริงๆ มันก็เป็นไปได้เช่นกันที่เราจะเอาข้อมูลของบุคคลในประวัติศาสตร์ดังๆ มาสร้างแชทบอทของคนตาย ไม่ว่าจะเป็น โสเครตีส, นโปเลียน, คาร์ล มาร์กซ์ หรือกระทั่ง ฮิตเลอร์

พอพูดแบบนี้เราก็จะเริ่มเห็นความสนุกที่สามารถทำได้ ซึ่งพอเป็นบุคคลสำคัญเราจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นการละเมิดเหมือนการจับญาติใครก็ไม่รู้มาทำแชทบอท

ประเด็นพวกนี้ซับซ้อนมากและไม่มีกฎหมายรองรับ บอกได้เลยว่าคุยกันเป็นสิบๆ ปีก็ไม่จบ ถึงคุยจบสิ่งที่จะบังคับใช้เทคโนโลยีพวกนี้ได้ก็มีแต่สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ชาติส่วนใหญ่ของโลกยอมให้สัตยาบัน

แต่เอาง่ายๆ อย่างเราก็คงไม่ต้องเถียงกันมากว่า AI ควรจะฆ่าคนหรือไม่? เพราะคนทั่วๆ ไปก็คงตอบว่าไม่ทั้งนั้น

แต่ในความเป็นจริง ทุกวันนี้สหประชาชาติยังตกลงกันไม่สำเร็จเลยว่าเราจะต้องมีข้อตกลงไหมว่า AI ที่พัฒนามาจะไม่ฆ่าคน? คือมันตกลงในรายละเอียดไม่ได้ เพราะแต่ละชาติก็อยากจะพัฒนาอาวุธ AI ของตัวเองทั้งนั้น ก็เลยเกี่ยงกันไปมาหาข้อตกลงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็มีหลายชาติที่พัฒนาอาวุธพวกนี้ออกมาเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นเราไม่ต้องหวังว่านานาชาติจะตกลงกันได้ว่าการสร้างแชทบอทจากคนตายจะเป็นเรื่องผิดหรือถูกหรอก เพราะเรื่องที่คนแทบไม่ต้องเถียงกัน มันยังกลายเป็นข้อตกลงระดับนานาชาติไม่ได้เลย แล้วเรื่องที่คนยังต้องเถียงกันอีกยาวมันจะเหลือเหรอ?

เรียกว่าถกเถียงกันในทางจริยธรรมสนุกๆ น่ะได้ แต่ความเป็นจริงก็คือ ไม่น่าจะมีอะไรในโลกนี้หยุดยั้งการจับเอาคนตายมาทำแชทบอทได้

และนั่นก็หมายความว่าสักวันตัวคุณเองก็อาจถูกจับมาทำแชทบอทก็ได้ ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม

อ้างอิง

  • The Conversation. Deadbots can speak for you after your death. Is that ethical? https://bit.ly/3LLb26Z
  • San Francisco Chronicle. Listen: Artificial intelligence helped him grieve his late fiancee. https://bit.ly/3ac58Pf