ประสบการณ์ของสวีเดนชี้ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ สุดท้ายอาจเกิดจากการเลือกของผู้หญิงเอง
Select Paragraph To Read
- นี่เป็น ‘ความไม่เท่าเทียมเล็กๆ ’ ในสังคมที่ผู้หญิงกับผู้ชายเท่ากันทุกอย่าง
- แต่จริงๆ ปัญหามันลึกกว่านั้น
- ซึ่งผลจากการให้ผู้หญิงเลือกงานเองตามความชอบ ผู้หญิงก็เลยเลือก ‘งานของผู้หญิง’
- แต่สิ่งที่สวีเดนพยายามแบบเห็นๆ เลยก็คือ การพยายามจะ ‘สนับสนุนให้ผู้ชายมีบทบาทแบบผู้หญิง’
ทุกวันนี้ถ้าพูดถึง “ประเทศที่เท่าเทียมทางเพศที่สุดในโลก” แล้ว หลายคนที่มีมุมมองอินเตอร์ๆ หน่อยก็คงจะคิดถึงสวีเดน เพราะประเทศนี้นอกจากจะมีอันดับตัวชี้วัดความเท่าเทียมทางเพศติดอันดับท็อปมายาวนาน (คือตั้งแต่วัดกันมา อันดับที่ต่ำสุดที่ได้คืออันดับ 5) ถ้ามาดูพวกกฎหมาย วัฒนธรรมการเมือง และอะไรต่างๆ มันก็ดูจะชี้เป็นแบบนั้น
มันไม่มีประเทศไหนในโลก (แม้แต่พวกนอร์ดิกเอง) ที่มีสวัสดิการด้านการเลี้ยงดูเด็กเล็กดีเท่าสวีเดน และนี่ทำให้ผู้หญิงที่มีลูกแทบไม่เสียโอกาสด้านหน้าที่การงานเลย ซึ่งนี่ก็ยังไม่นับว่ากฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางแรงงานของสวีเดนมันจริงจังสุดๆ
โครงสร้างพื้นฐานพวกนี้ส่งผลให้ผู้หญิงสวีเดนออกนอกบ้านไปทำงานกันเยอะสุดในโลก หรือพูดง่ายๆ คือเป็น ‘แม่บ้าน’ น้อยกว่าประเทศอื่นๆ คือมันไม่มีคอนเซ็ปต์ว่าผู้หญิงต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกพร้อมกับจบชีวิตการทำงาน เพราะรัฐช่วยดูแลลูกอย่างเต็มที่ และก็มีข้อห้ามไม่ให้นายจ้างไม่จ้างเพียงเพราะเป็นผู้หญิงด้วย
และก็ไม่แปลกเลยที่ประเทศที่เท่าเทียมทางเพศแบบนี้มันจะสะท้อนออกมาในสภาว่า สมาชิกสภาสวีเดนเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง และนี่สูงกว่าสหภาพยุโรปที่มีผู้หญิงเพียง 1 ใน 3 ของสภาเท่านั้น ซึ่งนี่คนละโลกแน่ๆ กับสหรัฐอเมริกาที่มีผู้หญิงเป็นส่วนประกอบของสภาแค่ราวๆ 1 ใน 4 เท่านั้น
และนี่ก็ยังไม่นับว่ารัฐของสวีเดนเองประกาศชัดว่าสนับสนุนสิทธิสตรี และสวีเดนมีองค์กรอิสระเฉพาะที่เรียกว่า ‘ผู้ตรวจการแผ่นดินด้านความเท่าเทียมทางเพศ’ ด้วยซ้ำเพื่อการันตีว่าระเบียบต่างๆ ของรัฐจะนำไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศจริงๆ
พูดอีกแบบ สวีเดนคือประเทศที่รัฐ ‘ไปสุด’ แล้วด้านความเท่าเทียมทางเพศ มันแทบจะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
แล้วผลล่ะ? แน่นอน สวีเดนถือว่าเป็นประเทศที่ความเท่าเทียมทางเพศสูงอันดับต้นๆ ของโลก แต่นั่นก็ไม่ใช่สวีเดนไม่มี ‘ปัญหา’
เพราะมองจากมุมสวีเดนเอง ความเท่าเทียมทางเพศที่แท้จริงยังอยู่อีกไกล เพราะอัตรารายได้ของผู้หญิงโดยรวมก็ยังต่ำกว่าผู้ชายอยู่ชัดๆ (แม้ว่าช่องว่างทางรายได้ระหว่างเพศในสวีเดนจะแคบกว่าประเทศอื่นมากแล้วก็ตาม)
นี่เป็น ‘ความไม่เท่าเทียมเล็กๆ ’ ในสังคมที่ผู้หญิงกับผู้ชายเท่ากันทุกอย่าง
ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะเล็ก แต่ก็รบกวนจิตใจสุดๆ เพราะมันเป็นไปได้ยังไงในสังคมที่ผู้หญิงทำงานเดียวกับผู้ชาย ได้เงินเท่าผู้ชาย มีกฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติทางเพศในการจ้างงาน พร้อมยังมีองค์กรอิสระเฉพาะที่คอยดูแลว่ากฎหมายนี้จะได้รับการบังคับใช้จริง แต่สุดท้าย รายได้โดยรวมของผู้หญิงก็ยังต่ำกว่าผู้ชายอยู่
คนสวีเดนจะมองว่าเป็นผลของที่พวกบริษัทเอกชนจะไม่ค่อยยอมให้ผู้หญิงขึ้นระดับสูงเท่าไรในตำแหน่งบริหาร เพราะถ้าไปดูตำแหน่งบริหารของบริษัทใหญ่ๆ ก็จะเห็นจริงๆ ว่ามันก็หน้าตาฝ่ายบริหารมันก็เหมือนๆ บริษัทในประเทศอื่น ที่ผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะมีผู้หญิงแซมๆ ก็นิดหน่อยเท่านั้น
แต่จริงๆ ปัญหามันลึกกว่านั้น
เพราะถ้าไปดูสถิติแรงงานจริงๆ จะเห็นเลยว่า ผู้หญิงมักจะเลือกทำงานด้านงานบริการดูแลและการใช้ภาษา โดยมีผู้หญิงจำนวนน้อยมากที่จะไปทำงานสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งงานแบบหลังมันสร้างรายได้มากกว่า และเป็นที่มาว่าทำไมผู้ชายที่เป็นแรงงานส่วนใหญ่ในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถึงมีรายได้เยอะกว่าผู้หญิงในภาพรวม
คำถามคือ ระบบการศึกษาสวีเดนกีดกันผู้หญิงจากเรื่องพวกนี้รึ? คำตอบคือไม่ใช่ ระบบการศึกษาสวีเดนน่าจะสนับสนุนให้ผู้หญิงเรียนหรือกระทั่งทำงานพวก ‘สายวิทย์’ มากกว่าที่อื่นด้วยซ้ำ แต่ประเด็นคือผู้หญิงไม่เลือกด้านนี้เอง
จะบอกว่ามันเป็นภาวะย้อนแย้งก็ได้ เพราะในประเทศอื่นที่สวัสดิการด้อยกว่าสวีเดน ผู้หญิงที่เรียนสายวิทย์ เขาเรียนกันเพราะมันรายได้ดี และในโลกทุนนิยม ความเป็นอิสระใดๆ ทั้งปวงเริ่มจากรายได้ ดังนั้นผู้หญิงในโลกเสรีที่สวัสดิการไม่ดีเลยเลือกเรียนสายวิทย์และทำงานในสายนี้กันมาก แต่สวีเดนที่รัฐสวัสดิการพร้อมจะเป็นแบคอัพให้ทุกอย่างของความมั่นคงในชีวิต ภายใต้รัฐแบบนี้ ผู้หญิง (หรือใครก็ตาม) ไม่ได้เลือกงานตามรายได้ที่จะได้ แต่เลือกตามความต้องการและความถนัดของตัวเอง
ซึ่งผลจากการให้ผู้หญิงเลือกงานเองตามความชอบ ผู้หญิงก็เลยเลือก ‘งานของผู้หญิง’
ซึ่งงานพวกนี้ มันผลตอบแทนต่ำกว่า ‘งานของผู้ชาย’ ในตลาดแรงงาน และนี่คือที่มาของช่องว่างทางรายได้ของผู้หญิงและผู้ชายสวีเดน
แล้วจะแก้ปัญหายังไง? แน่นอน สวีเดนไม่ได้มีความบ้าแบบสังคมนิยมพอที่จะปรับให้งานทุกอย่างมีค่าแรงเท่าๆ กันแน่ๆ เพราะอะไรแบบนี้ก็เคยนำมาสู่หายนะทางเศรษฐกิจแล้วในสหภาพโซเวียต แต่สิ่งที่บางฝ่ายเสนอก็คือ สร้างระบบโควตามันไปเลย ให้แต่ละบริษัทต้องจ้างผู้ชายและผู้หญิงเท่าๆ กันในตำแหน่งงานเดียวกัน
เทคนิคแบบนี้มีเชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Affirmative Action หรือถ้าจะแปลไทยตามความหมายก็คือ ‘การแทรกแซงเพื่อยืนยันผลลัพธ์ที่เท่าเทียม’ และเป็นเทคนิคที่ใช้ในโลกภาษาอังกฤษพอควรกับการจ้างงานพวกคนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ในสังคม เช่น การระบุในระเบียบคณะมหาวิทยาลัยว่า ในคณะต้องมีอาจารย์เป็นคนดำ มีอาจารย์เป็นคนเอเชีย มีอาจารย์เป็นผู้หญิง กี่คนๆ ก็ว่าไป
อะไรแบบนี้บางคนก็คงจะรู้สึกว่ามันดูเหมือนระเบียบการแคสติ้งตัวละครในหนังของดิสนีย์หรือซีรีส์เน็ตฟลิกซ์มากกว่าสิ่งที่ควรจะเอามาใช้ในการโลกการทำงานทั่วๆ ไป และแม้แต่ฝ่ายที่สนับสนุนความเท่าเทียมของผู้หญิงเองบางคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะการบังคับนายจ้างให้จ้างผู้หญิงตามโควตามันเป็นเหมือนการดูถูกความสามารถในการทำงานของผู้หญิงด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่สวีเดนพยายามแบบเห็นๆ เลยก็คือ การพยายามจะ ‘สนับสนุนให้ผู้ชายมีบทบาทแบบผู้หญิง’
ซึ่งปลายทางก็คือจะทำให้ผู้ชายเลือกทำ ‘งานแบบผู้หญิง’ ได้ค่าแรงลดลง และช่วยให้ช่องว่างแคบลงนั่นเอง
สวีเดนจริงจังเรื่องพวกนี้มาก เพราะน่าจะเป็นประเทศเดียวที่ ‘พ่อ’ สามารถลาหยุดหลังมีลูกเล็กเพื่อมาเลี้ยงลูกได้ และนี่ก็ยังไม่นับแคมเปญอีกสารพัดที่พยายามจะสร้างค่านิยมใหม่ๆ ในหมู่ผู้ชายว่าผู้ชายไม่มีความจำเป็นต้องแข็งกร้าวและเล่นบทบาททางสังคมตามจารีตเสมอไป เพราะผู้ชายก็เล่นบทอ่อนโยน ทำงานบริการโดยใช้ความใส่ใจ ฯลฯ ได้เหมือนกับผู้หญิง
แต่ก็นั่นเอง ทั้งหมดนี้ก็นำเรากลับมาสู่คำถามโลกแตกร่วมสมัยว่า เอาจริงๆ ผู้ชายกับผู้หญิงนั้นแตกต่างกันหรือไม่? มันมีแนวโน้มทางกายภาพบางอย่างที่จะทำให้สองเพศนี้ต่างกันโดยพื้นฐานหรือไม่ ฯลฯ
และถ้ามันยังอีนุงตุงนังไม่พอ แค่การที่เราอภิปรายเรื่องความต่างของเพศบนฐานของสองเพศ ก็แทบจะทำให้นักกิจกรรมด้านเพศทางเลือกเริ่ม ‘กำหมัด’ กันแล้ว
สุดท้าย เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ มันก็ชวนให้เรากลับไปตั้งคำถามว่า เอาจริงๆ ความไม่เท่าเทียมในทางเศรษฐกิจของหญิงชายมันเกิดจาก ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ จริงเหรอ? เพราะขนาดสวีเดนที่ ‘ปลดล็อก’ พันธนาการทุกสิ่งอย่างของผู้หญิงแล้ว ความเท่าเทียมในอุดมคติที่ว่าก็ยังไม่เกิด และสุดท้ายเอาจริงๆ ทางเลือกของผู้หญิงสวีเดนส่วนใหญ่ที่ทำ ‘งานของผู้หญิง’ ก็ดูจะตอกย้ำการแบ่งงานทางเพศแบบสังคมดั้งเดิมมากกว่าที่จะเป็นภาพของสังคมก้าวหน้าที่ชายหญิงทำงานแบบเดียวกันหมด
อ้างอิง:
- Sweden Sverige. Equal power and influence for women and men – that’s what Sweden is aiming for. https://bit.ly/3G4HoY0
- BBC. The ‘paradox’ of working in the world’s most equal countries. https://bbc.in/3G4Hjna
- World Economic Forum. Global Gender Gap Report 2021. https://bit.ly/3pk28UO
- BBC. Is Sweden the best place to be a woman? https://bbc.in/3pfa2io