ปัญหาการท้องไม่พร้อมและการทำแท้ง เมื่อพูดขึ้นมาเชื่อว่าหลายๆ คนต้องเห็นภาพนักเรียนนักศึกษาเป็นกลุ่มแรกๆ แต่คำถามคือในประเด็นนี้ เรามองแค่ ‘กลุ่มวัยรุ่น’ ได้จริงหรือ?
Brandthink มีโอกาสพูดคุยกับ ตุ๊กตา-นิศารัตน์ จงวิศาล สมาชิกคณะผู้หญิงปลดแอก (Women for Freedom and Democracy) และ ‘กลุ่มทำทาง’ อาสาสมัครที่ทำงานให้คำปรึกษาผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม พบว่าตามสถิติแล้วในกลุ่มคนที่ท้องไม่พร้อมส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในวัยเรียน
จากข้อมูลในปีพ.ศ.2558 คนที่เข้ารับบริการทำแท้ง มีสถานภาพเป็นนักเรียนนักศึกษาเพียง 28.6% และมากกว่าครึ่งหนึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่การสื่อสารและภาพจำของคนในสังคมส่วนใหญ่ยังผูกโยงปัญหาเหล่านี้กับเด็กวัยเรียนมากกว่า
“สังคมไทยมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการทำแท้งจำนวนมากนะ ไม่ว่าจะเป็นการทำแท้งจะต้องเป็นวัยรุ่นใจแตกเท่านั้น ไม่ใช่ ผัวเดียวเมียเดียวก็ทำแท้งได้ แต่งงานแล้วก็ทำแท้งได้ หรือว่าอายุมากแล้ว 40-50 ปีก็ทำแท้งได้”
ตุ๊กตากล่าว
ในความเป็นจริงไม่ว่าช่วงอายุไหนก็สามารถพลาดได้เช่นกัน รวมถึงในวัยที่โตแล้วยังมีแนวโน้มตัดสินใจเลือกทำแท้งมากกว่าด้วยความจำเป็นของชีวิต ซึ่งหลายคนมองว่าการทำแท้งมักเกิดจากการไม่ป้องกัน หรือป้องกันแล้วแต่ล้มเหลว ดังนั้น สังคมจึงไม่สนับสนุนการทำแท้งถูกกฎหมาย เพราะต้องการให้ไปแก้ที่ความรู้เรื่องการคุมกำเนิด แต่ความจริงการคุมกำเนิดเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำมาสู่การทำแท้งเท่านั้น ในชีวิตอาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
เช่นผู้หญิงบางคนตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์เมื่ออายุครรภ์สูง เนื่องจากตอนแรกตั้งใจที่จะมีลูก แต่เกิดอุบัติเหตุทางความสัมพันธ์ เช่น เลิกราจากคนรักครอบครัวไม่พร้อมช่วยดูแล ฯลฯ เงื่อนไขชีวิตเปลี่ยนไป การเลี้ยงดูคนเดียวอาจไม่ไหว จนนำมาสู่การตัดสินใจทำแท้งในภายหลัง
เมื่อปัจจัยในชีวิตของคนเรามีหลากหลาย การท้องไม่พร้อมหรือความต้องการทำแท้งนั้นจึงไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กวัยรุ่น หรือคนที่ถูกมองว่า “ใจแตก” เท่านั้น สิ่งสำคัญที่ต้องยกมาถกเถียงคือ เมื่อเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น ผู้หญิงสามารถเลือกยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยหรือไม่?
ปัจจุบันคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้มีการแก้ไขมาตรา 301 ให้ทำแท้งได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ถ้าหากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ พร้อมเสนอลดโทษผู้ทำแท้งที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ให้จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงเพิ่มกรณียกเว้นในมาตรา 305 ให้ยกเว้นกรณีที่แพทย์ช่วยทำแท้ง
ในขณะเดียวกันทางกลุ่มทำแท้ง และผู้หญิงปลดแอกเองได้มีข้อเสนอเพิ่มเติมให้ยกเลิกมาตรา 301 ในทุกๆ กรณี ถ้าหากอายุครรภ์สามารถทำได้อย่างปลอดภัยก็ควรจะได้รับอนุญาตให้ยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขในมาตรา 305 เป็นเพดาน
ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า “ทำไมการทำแท้งปลอดภัยจึงควรเป็นทางเลือก” พร้อมติด #ท้องเลือกได้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือบอกเล่าประสบการณ์เพื่อให้สังคมได้เห็นแง่มุมที่หลากหลายเกี่ยวกับการทำแท้งได้ที่: https://www.brandthink.me/campaign/tongluekdai
🗨 วิธีร่วมแสดงความคิดเห็น
1. เข้าเว็บไซต์ BrandThink หน้าเเคมเปญ #ท้องเลือกได้: https://www.brandthink.me/campaign/tongluekdai
2. สมัคร หรือ ล็อกอิน เพื่อเข้าสู่ระบบ
3. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำแท้งเพื่อร่วมขับเคลื่อนประเด็น “ทำไมการทำแท้งปลอดภัยจึงควรเป็นทางเลือก” ได้ด้านล่างของหน้าเเคมเปญ