3 Min

9 อาชีพอนาคตไกล ที่จะไม่โดนหุ่นยนต์มาแทนที่ พร้อมเหตุผลจากนักเศรษฐศาสตร์

3 Min
1402 Views
05 Jul 2021

พอพูดถึงโลกการทำงาน สิ่งที่น่ากังวลก็คือการตกงานเพราะเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่เพราะในวันที่เทคโนโลยีเติบโตไปไกล หลายอาชีพเริ่มต้องลดบทบาทลง จนบางอาชีพก็เริ่มสูญหายไปจากสังคม ทำให้การเลือกงาน หรือเลือกเรียนสาขาอะไร ต้องคำนึงว่าสาขาอาชีพนั้นจะถูกหุ่นยนต์มาแทนที่หรือไม่

คำถามคืออาชีพไหนที่พอจะวางใจได้บ้าง ว่าจะอยู่รอดปลอดภัยในอนาคต วันนี้ BrandThink จะพาทุกคนมารู้จักกับ 9 อาชีพที่น่าจะอยู่รอดปลอดภัย แม้เทคโนโลยีจะเติบโตไปแค่ไหนก็ตาม 

(ข้อมูลนี้มาจากการวิเคราะห์ของคุณ Mariano Mamertino นักเศรษฐศาสตร์จาก EMEA ของเว็บไซต์ Indeed และ Glassdoor เว็บไซต์ด้านการงานชื่อดัง)

1. เชฟ 

การได้ออกไปทานข้าวนอกบ้านเพื่อลองเมนูใหม่เป็นกิจกรรมโปรดของใครหลายคน เมนูพวกนี้ต้องใช้เชฟที่มีทั้งความสามารถด้านการปรุงและชิมอาหารเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารจานเด็ด จึงไม่แปลกหากลูกค้าจะไว้ใจให้เชฟตัวเป็นๆ รังสรรค์เมนูสุดพิเศษมากกว่าจะให้เชฟหุ่นยนต์ทำอาหาร เชฟจึงเป็นอาชีพที่อยู่รอดในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ในเกือบทุกอย่าง โดยตำแหน่งเชฟบนเว็บไซต์ Indeed มักจะว่างนานกว่าสามเดือน

2. งานการตลาด งานสื่อสาร และงานออกแบบ 

งานพวกนี้ต้องใช้การคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) และจินตนาการอันล้ำเลิศเพื่อออกแบบไอเดียใหม่ๆ แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้ามากแค่ไหนแต่หุ่นยนต์ก็คงปิ๊งไอเดียดีๆ ไม่เก่งเท่ามนุษย์ ความคิดสร้างสรรค์ใช้การระดมสมอง ขยายขอบเขตความคิดธรรมดาให้กว้างและหลากหลายแง่มุมเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าสมองมนุษย์ เพราะฉะนั้นหากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ยังไงก็อยู่รอดในยุคนี้แน่นอน

3. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ 

แน่นอนว่าเราไม่สามารถพึ่งพาเทคโนโลยีมาทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะงานพวกนี้ต้องใช้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในการสื่อสาร บุคลากรด้านสุขภาพควรมีความละเอียดอ่อนในการซักถามอาการและอธิบายอาการของผู้ป่วยด้วยความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำได้ ข้อมูลจากเว็บ Indeed เผยว่าตอนนี้งานพยาบาลที่บ้านยังเป็นงานที่ขาดแคลนบุคลากรมากที่สุด  เพราะฉะนั้นหากคุณทำงานพยาบาล ยังไงก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแน่นอน

4. งานด้านการศึกษาและฝึกอบรม 

แม้ปัจจุบันจะมีการนำเทคโนโลยีช่วยสอนเข้ามาใช้ในการเรียนการสอนตามโรงเรียน แต่อาชีพนี้ยังต้องการความละเอียดอ่อนในการอธิบายบทเรียนยากๆ และกระตือรือร้นที่จะดูแลเอาใจใส่นักเรียนในเรื่องอื่นๆ การมีครูที่นักเรียนสามารถซักถามข้อสงสัยต่อหน้าย่อมดีกว่าเรียนผ่านจอหรือผ่านหุ่นยนต์แน่นอน จากข้อมูลเว็บ Indeed ตำแหน่งงานด้านการสอนว่างเพิ่มขึ้น 5% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

5. ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ 

บุคลากรด้านไซเบอร์ในปัจจุบันมีจำนวนเยอะพอสมควรแต่กลับยังขาดแคลนเนื่องจากความต้องการในตลาดก็เยอะตามไปด้วย อาชีพนี้ต้องใช้ความรอบคอบเพื่อตรวจสอบช่องโหว่ของระบบ หากผิดพลาดอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ระดับประเทศหรือระดับโลกเลยทีเดียว บนเว็บไซต์ Indeed จำนวนโพสต์รับสมัครบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นถึง 18% เพราะฉะนั้นหุ่นยนต์จึงไม่น่าจะมาแทนที่มนุษย์ในงานประเภทนี้ได้ในเร็วๆ นี้

6. ทรัพยากรบุคคล 

เทคโนโลยีที่ใช้สืบประวัติผู้สมัครงานผ่านอินเทอร์เน็ตอาจช่วยลดภาระงานทรัพยากรบุคคลได้มาก แต่แน่นอนว่าการเฟ้นหาบุคลากรเข้ามาทำงานในองค์กรหรือบริษัทต้องใช้ความละเอียดอ่อนมากกว่านั้น HR ต้องคัดคนเข้าทำงานโดยอาศัยการสัมภาษณ์พูดคุยเพื่อคัดกรองผู้สมัครที่มีความพร้อมทางวุฒิภาวะ และอุดมการณ์ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นทักษะที่หุ่นยนต์ยังฝึกไม่ได้ในอนาคตอันใกล้

7. งานเดลิเวอรี่และการจัดการโลจิสติกส์ 

แม้ช่วงปีที่ผ่านมามีการเสนอให้ใช้โดรนส่งของและจัดส่งพัสดุ แต่โดรนและเทคโนโลยีการขนส่งก็ยังต้องอาศัยมนุษย์ในการกำกับดูแลจัดการอยู่ดี นอกจากนี้การใช้โดรนส่งของยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องประเมินให้ดี เช่น มลภาวะทางเสียง การจราจรบนน่านฟ้าที่หนาแน่น และความปลอดภัยของโครงสร้างโดรน เพราะฉะนั้นอาชีพเดลิเวอรี่จึงยังจำเป็นอยู่มากในปัจจุบัน จากข้อมูลของเว็บ Indeed ประกาศรับสมัครหาคนขับรถส่งของมักจะว่างบนเว็บนานถึง 60 วันหรือเกินกว่านั้น

8. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล 

นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลต้องวิเคราะห์หารูปแบบความสัมพันธ์ของข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ การพัฒนาสินค้า บริการ รวมทั้งทำนายผลประกอบการ อาจมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการออกแบบอัลกอริทึมและเขียนโค้ด แต่นอกเหนือจากนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่ต้องประยุกต์ความเชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์และทักษะการคิดวิเคราะห์เพื่อเลือกใช้ข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อพัฒนาองค์กรต่อไป

9. พนักงานพาร์ทไทม์และฟรีแลนซ์ 

การทำงานแบบระยะสั้น เช่น คนขับรถ Grab งานฟรีแลนซ์ หรือ งานบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่เอนเอียงไปทางงานอิสระที่สามารถจัดสรรเวลาของตัวเองได้ โดยต้องอาศัยความยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะที่หุ่นยนต์ไม่มี

แม้ว่าในปัจจุบันหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในหลายอาชีพแต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่างเช่นความคิดสร้างสรรค์ ความละเอียดอ่อน ปฏิสัมพันธ์ อารมณ์ ความเห็นอกเห็นใจ และประสบการณ์ที่แตกต่างกันของมนุษย์แต่ละคน ทักษะเหล่านี้ทำให้หุ่นยนต์และเทคโนโลยียังเข้ามาแทนที่งานของมนุษย์ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในหลายสาขาอาชีพ 

ถึงจะสบายใจได้ว่าเทคโนโลยีมีขีดจำกัดความสามารถ แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในอนาคตยังเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำนายได้ เรายังจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะเพิ่มพูนทักษะ พัฒนาความสามารถ และกล้าที่จะปรับตัวเพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ

อ้างอิง