เปิดใจ ‘ฟอเรสต์ วิทย์’ สิทธิเวคิน ผู้รอบรู้มากความสามารถ กับ 5 แบรนด์ในดวงใจ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

4 Min
1893 Views
22 Dec 2023

ถ้าพูดถึงชื่อ ‘ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน’ หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะพิธีกรรายการออนไลน์ชื่อดัง แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้ว ดร.วิทย์เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ รู้ลึกรู้จริงในหลากหลายสาขา ทั้งเศรษฐศาสตร์ กีฬา แถมยังพูดได้หลายภาษา เรียกได้ว่า ดร.วิทย์อยู่มาแทบจะทุกวงการเลยทีเดียว

เรามาเปิดประวัติคร่าวๆ ของ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นก่อนดีกว่า ดร.วิทย์ จบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปเรียนปริญญาโทและปริญญาเอก ที่ประเทศอังกฤษ และด้วยความชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ดร.วิทย์เริ่มงานแรกเป็นผู้สื่อข่าวฟุตบอลยุโรปของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หลังจากนั้นได้ทำงานเป็นสื่อมวลชนดำเนินรายการข่าวที่เนชั่น และทำงานในบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ก่อนจะรับงานฟรีแลนซ์ เป็นพิธีกรมากความสามารถอย่างเช่นทุกวันนี้

พอเห็นแบบนี้ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า คนที่เก่งรอบด้านและมีประสบการณ์ในหลากหลายสายงานอย่าง ดร.วิทย์ จะมีความชื่นชอบในแบรนด์อะไรบ้าง และมีแนวคิดต่อแบรนด์นั้นๆ อย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจะมาเปิดใจ ดร.วิทย์ กับ 5 แบรนด์ในดวงใจ ที่ทำไมถึงชอบ เพราะอะไรถึงใช่ มาไขคำตอบได้ที่นี่เลย

มาเริ่มกันที่แบรนด์ BMW แบรนด์ที่ ดร.วิทย์เห็นว่า “ความเท่ของตัวแบรนด์มันอยู่มายาวนานและต่อเนื่อง” 

แบรนด์ BMW เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1916 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งจากการสอบถาม ดร.วิทย์ ถึงเหตุผลที่แบรนด์นี้ซื้อใจ ดร.วิทย์ ได้ ก็เป็นเรื่องของการไม่หยุดนิ่ง และมีบุคคลในองค์กรที่มีทิศทางเดียวกัน “พอเรามองย้อนกลับไปจากอดีตสู่ปัจจุบัน BMW เป็นแบรนด์ที่คิดตลอดเวลา … และยิ่งไปกว่านั้นพอผมเข้าไปทำงาน ผมถึงได้รู้ว่า แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้ คนในนั้นต้องมีบุคลิกอย่างนั้น สำหรับผม BMW ไม่ใช่แค่แบรนด์รถยนต์ แต่เป็นเหมือนโรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นเหมือนวิธีการในการดำรงชีวิตของคนที่อยู่ในโลกที่มีการแข่งขันสูง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีเรื่องของความเชื่อใจและวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจ”

ถัดมาที่แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาขวัญใจ ดร.วิทย์ อย่าง adidas ที่ ดร.วิทย์พูดเลยว่าเป็นแบรนด์ที่มีความมหัศจรรย์ในตัวเอง เพราะว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน adidas ก็ยังคงยืนอย่างสง่างามในวงการเสื้อผ้าและวงการกีฬา อย่างที่ ดร.วิทย์ได้ให้ความเห็นต่อแบรนด์นี้ไว้ว่า

“ผมชอบ adidas มันเจ๋งตรงที่ว่า ไม่ว่าจะกี่ปีเขาสามารถเป็นผู้นำเทรนด์ได้ตลอด … adidas เป็นแบรนด์ที่ไม่มีปีไหนที่ผมไม่ซื้อ … adidas คือการผลิตซ้ำ เป็นมรดกที่ยังอยู่ในปัจจุบัน แบบไม่หวือหวาจนเกินไป” 

และอีกหนึ่งแบรนด์ในใจของ ดร.วิทย์​ ต้องยกให้ Samsung แบรนด์เกาหลีหนึ่งเดียวที่ไม่เคยหลุดกระแส แม้จะมีแบรนด์คู่แข่งน้องใหม่มากมาย แต่ Samsung ก็ยังสามารถยืนโดดเด่นอยู่ในตลาดได้อย่างสง่างาม โดย ดร.วิทย์ให้ความสนใจในแบรนด์นี้ตั้งแต่ในเรื่องของการผลิตแล้ว โดยกล่าวว่า “ประเทศที่มีพลเมืองแค่ 50 ล้านคน ผลิตสินค้าที่อมตะได้ขนาดนี้ต้องไม่ธรรมดา” นอกจากนี้ยังถูกใจในสมาร์ทโฟนของ Samsung มากๆ ด้วย อย่างที่ ดร.วิทย์ได้กล่าวชมสมาร์ทโฟนของ Samsung ไว้ว่า

“สมาร์ทโฟนของผมเริ่มที่ซัมซุง และประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา ผมว่าการออกแบบ User Interface ดี ยอดขายดีตลอด ผมซื้อกี่ครั้งมันดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันไม่ได้แพง ตัวราคาสมเหตุสมผล” 

เมื่อมีแบรนด์สินค้าแล้ว มาที่แบรนด์ที่เด่นในเรื่องการบริการกันบ้าง โดย ดร.วิทย์ยกให้ Mandarin Oriental Bangkok เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีการบริการเป็นเลิศที่สุดในใจของ ดร.วิทย์ เพราะพนักงานทุกคนมีใจรักการบริการจริงๆ จากที่ ดร.วิทย์ได้กล่าวว่า

“ในเรื่องของบริการผมให้ Oriental … คิดดูว่าโรงแรม 140 กว่าปี ดีที่สุดในโลก ไม่ใช่เพราะอาคารสถานที่ แต่เป็นเพราะคน…เขาสามารถทำให้พนักงานทุกคนสามารถอ่านใจลูกค้าได้ตลอดเวลา และสามารถสร้างความประทับใจให้ได้ตลอดเวลา”

และมาที่แบรนด์สุดท้าย แบรนด์พลังงานหนึ่งเดียวในใจ ดร.วิทย์ อย่าง ‘บางจาก’ ที่ ดร.วิทย์เห็นว่าเป็นแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพสูงมาก ซึ่งทาง ดร.วิทย์​ก็เอ่ยปากชมตั้งแต่ความใส่ใจในหลายๆ เรื่องที่บางจากทำ เช่น เรื่องของการเริ่มใช้แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย แม้เป็นแบรนด์น้ำมันไทย แต่ก็น่าทึ่งว่า บางจากเป็นแบรนด์ที่ส่งน้ำมันคุณภาพใหม่ๆ ล้ำๆ เข้ามาในตลาดอยู่เสมอ อย่างน้ำมันที่ผสมเอทานอลหรือแก๊สโซฮอล์ ก็เป็นรายแรกที่ผลิตออกจำหน่าย เพราะเขามีแนวคิดเรื่องการทำน้ำมันที่ดีทั้งกับรถและสิ่งแวดล้อม

โดย ดร.วิทย์ กล่าวว่า 

“ผมมองย้อนกลับไปตอนที่ผมทำงานที่ BMW ตอนนั้นประเทศไทยบอกว่าเราต้องเริ่มใช้แก๊สโซฮอล์ ทุกคนด่า แต่แบรนด์ที่กล้าทำ กล้าสื่อสาร คือ ‘บางจาก’ และจากนั้นเขาก็พัฒนาน้ำมันมาอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งในตอนนั้นผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล จำหน่ายในไทยเป็นรายแรก จากความต้องการที่จะลดการใช้ฟอสซิล เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากพืชบางส่วนที่ช่วยลดมลภาวะ เพื่อสร้างทั้งความมั่นคงทางพลังงานและดีต่อสิ่งแวดล้อม 

นอกจากนี้ ดร.วิทย์ยังคงชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อมของบางจาก ที่เสมอต้นเสมอปลายมาตั้งแต่แรก “ตั้งแต่ในยุคที่ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ ตอนนี้ทุกคนพูดหมด แต่พอเรามองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ใครจะแคร์ แต่บางจากทำมาอย่างต่อเนื่อง ก้มหน้าก้มตาเดินหน้าต่อไป”

โดยบางจากพัฒนาน้ำมันมาตรฐาน Euro 5 ซึ่งมีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่ามาตรฐาน 4-5 เท่า ได้ตั้งแต่ปี 2013 ก่อนที่เมืองไทยจะบังคับใช้น้ำมัน Euro 5 ในต้นปีหน้า (1 มกราคม 2024) เสียอีก

นอกจากนี้ การที่บางจากมีโรงกลั่น มีคลัง มีท่อขนส่งของตัวเอง ยังทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถควบคุมคุณภาพของน้ำมันได้ดี และส่งน้ำมันที่ได้มาตรฐานให้ผู้บริโภคได้ใช้

จะเห็นได้เลยว่า 5 แบรนด์ในดวงใจที่ ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน เลือกมานี้ไม่ใช่เล่นๆ แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นของตัวเองที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น BMW ที่คิดอยู่ตลอดเวลา และคงความเท่มาหลายทศวรรษ, adidas ที่มีความมหัศจรรย์ในตัวแบรนด์เอง, Samsung แบรนด์เกาหลีที่ไม่เคยหลุดกระแส, Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมที่มีการบริการเป็นเลิศ และ บางจาก แบรนด์พลังงานของไทยที่มีศักยภาพสูง และมุ่งมั่นพัฒนาน้ำมันที่ดีเพื่อชาวไทย และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมเสมอมา ทั้ง 5 แบรนด์นี้ล้วนเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและมีคุณค่าน่าประทับใจอย่างที่ ดร.วิทย์บอกจริงๆ