3 Min

4 ระยะความสัมพันธ์ อินเลิฟ-ผูกพัน-อาถรรพ์-ลึกซึ้ง มาดูกันว่าคุณกำลังอยู่ในระยะไหน

3 Min
5245 Views
17 Feb 2022

เคยสังเกตกันไหมว่าเวลาตกหลุมรักใครสักคน คนเรามักจะคลั่งรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น แต่พอผ่านไปสักพักกลับรู้สึกว่าไม่ค่อยหวานเหมือนแต่ก่อนทั้งที่ก็รักกันเหมือนเดิม

ความรักเป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อนมาก เพราะความรักไม่ได้ใช้เพียงหัวใจ แต่มีสารเคมีในสมองมากมายที่เป็นตัวกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของเราอยู่ตลอดเวลา

ดอกเตอร์เฮเลน ฟิชเชอร์ (Helen Fisher) นักประสาทวิทยาศาสตร์และนักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันคินซีย์ (Kinsey Institute) ร่วมกับดอกเตอร์ลูซี บราวน์ (Lucy Brown) ศาสตราจารย์คลินิกสาขาประสาทวิทยา วิทยาลัยแพทยศาสตร์ไอน์สไตน์ (Einstein College of Medicine) ได้ศึกษาสมองของคนในช่วงเวลาที่กำลังมีความรัก และพบว่าสารเคมีในสมองและแผนที่สมอง (Brain mapping) ของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามความยาวนานของความรักที่เกิดขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญพบว่าระยะของความสัมพันธ์นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 ช่วง ซึ่งมันอาจหาคำตอบให้คุณได้ว่าทำไมความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักถึงมีการเปลี่ยนแปลง

MOODY จึงอยากชวนทุกคนมาลองมาเช็กกันดูสักหน่อยว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักตอนนี้อยู่ในระยะไหนแล้ว

     1. ความรักกำลังเบ่งบาน (The Euphoric Stage)

ความสัมพันธ์ในช่วงแรกนี้เป็นช่วงที่คนสองคนกำลังตกหลุมรักกัน ความรักกำลังเบ่งบาน อะไรๆ ก็สวยงามหอมหวานไปหมด หรือเรียกว่าช่วงโปรโมชันก็ว่าได้ ความสัมพันธ์ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เรามักมองข้ามข้อบกพร่องต่างๆ ของคนรักไป ไม่ว่าคนรักจะทำอะไรผิดไปก็พร้อมให้อภัยได้เสมอ ความหวือหวาในช่วงนี้เป็นเพราะระดับฮอร์โมนโดปามีน (Dopamine) ในร่างกายสูงขึ้น ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้รู้สึกมีความสุขเหมือนคนที่ติดโคเคน (Cocaine rush) อีกทั้ง การศึกษายังพบว่าการทำงานของสมองส่วนที่ทำให้คนเราตัดสินคนอื่นในเชิงลบจะไม่ค่อยทำงานขณะที่กำลังตกหลุมรัก

     2. ความรักกลายเป็นความผูกพัน (The Early Attachment Stage)

หลังผ่านพ้นช่วงตกหลุมรักไปแล้วก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ช่วงที่ความรักแปรเปลี่ยนไปเป็นความผูกพัน เราจะรู้ตัวว่าเข้าสู่ระยะนี้แล้วก็ต่อเมื่อรู้สึกว่า ‘คนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็ได้’ ช่วงนี้สมองของคนเราส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกผูกพัน ฮอร์โมนวาโซเพรสซิน (Vasopressin) และฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) จะทำงานดีเป็นพิเศษ ฮอร์โมนออกซิโตซินได้ชื่อว่าเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก (Love hormone) ความสัมพันธ์ของคู่รักในช่วงนี้จึงจะเป็นความรู้สึกที่เริ่มลึกซึ้งขึ้นแต่ก็ไม่ได้หวือหวาเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากอยู่ด้วยกันมานาน ผ่านเรื่องราวต่างๆ ทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน จนทำให้เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น และกลายเป็นความผูกพันไปในที่สุด

     3. อาถรรพ์ความสัมพันธ์ (The Crisis Stage)

ระยะที่ 3 ของความสัมพันธ์นี้ถือเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงที่จะเลิกรากันสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญใช้คำว่า ‘อาถรรพ์ 5 – 7 ปี’ เมื่อความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดหนึ่งก็มักจะเกิดคำถามที่ว่า ‘คนนี้คือคนที่ใช่แล้วจริงๆ หรือ? ’ ทุกความสัมพันธ์ก็มักมีจุดที่ไม่แน่ใจนี้เหมือนกันทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะพอแค่นี้หรือไปต่อดี ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้จึงเป็นช่วงที่คู่รักควรปรับความเข้าใจกันให้มากที่สุด เพื่อที่จะผ่านอาถรรพ์ความสัมพันธ์นี้ไปให้ได้ หากคู่รักสามารถก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ก็จะเข้าสู่ความสัมพันธ์ในช่วงถัดไป

     4. ความรักผูกพันลึกซึ้ง (The Deep Attachment Stage)

ความสัมพันธ์ช่วงความผูกพันลึกซึ้งนี้อาจเปรียบได้เหมือนกับ ‘ช่วงฟ้าหลังฝน’ หลังพายุอารมณ์และวิกฤตความสัมพันธ์จบลง ทั้งคู่ก็ย่อมเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายลึกซึ้งกว่าเดิมจนเกินคำว่าผูกพันไปแล้ว ในช่วงนี้ความสัมพันธ์ก็จะเหนียวแน่นขึ้นไปอีก ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าช่วงความรักผูกพันลึกซึ้งนี้จะอยู่กับเราไปได้นานที่สุด ถ้าโชคดีมันก็อาจจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ถึงระยะที่ 3 จะเป็นช่วงเวลาที่ฟังดูน่ากลัวที่สุด แต่ความสัมพันธ์นั้นก็อาจมีหวานบ้าง ขมบ้าง หรือมีอุปสรรคที่เกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา เราควรมองว่ามันเกิดขึ้นเพื่อให้ได้เรียนรู้กันและกัน และเพื่อให้เข้าใจความหมายของ ‘ความรัก’ ให้มากขึ้น หากจับมือกันแน่นๆ และหมั่นเติมความรักให้แก่กัน เชื่อว่าอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาจะเป็นเพียงบทเรียนที่ทำให้รักกันมากขึ้นอย่างแน่นอน

MOODY ขอให้ผู้อ่านทุกคนมีความรักที่ดีและมีความสุขในวันแห่งความรักนี้นะ Happy Valentine’s Day 

อ้างอิง