สำรวจความหลากหลายใต้ร่มแซฟฟิค ของตัวละครจากเรื่อง ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’

ปีนี้นับได้ว่าเป็นปีทองของวงการ ‘ซีรีส์แซฟฟิค’ หรือ ‘ซีรีส์ยูริ’ อันหมายถึงซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวหญิงรักหญิงเป็นหลัก มาจากคำว่า ‘แซฟฟิค’ ที่เป็นร่มใหญ่ครอบคลุมหญิงรักหญิงในทุกอัตลักษณ์ทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น เลสเบี้ยน ทรานส์เจนเดอร์ ไบเซ็กชวล เควียร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งหนึ่งในซีรีส์แซฟฟิคแห่งปีอย่าง ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’ ก็กำลังเป็นกระแสโด่งดังอยู่ในตอนนี้ โดยซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวความรักของเด็กผู้หญิงสองคนได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู เป็นที่ถูกใจของแฟนคลับทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก

สิ่งที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เส้นเรื่องของความน่ารัก การไม่ได้อิงฉากโป๊เปลือยหรือการขายซีนจิ้นเพียงอย่างเดียว แต่การตีความเพศของตัวละครก็ทำได้หลากหลาย ถ่ายทอดแง่มุมผ่านตัวละครใต้ร่มของแซฟฟิคได้อย่างน่าสนใจ ทั้งตัวละครหลักและตัวละครเสริมแทบทั้งหมด

เริ่มจากตัวละคร ‘องศา’ และ ‘ซัน’ นักเรียนวัยมัธยมปลายที่เป็นตัวเอกของเรื่อง โดยในซีรีส์เท้าความว่าองศาเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ก็เลิกไปในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ด้วยในช่วงนั้นองศาอาจยังไม่เข้าใจตัวเองมากพอ หรือรู้ว่าตัวเองไม่สามารถคบหา ‘พี่ต้น’ อย่างที่แฟนคนหนึ่งพึงกระทำได้ จนกระทั่งองศาได้พบกับซัน และรู้ว่าครั้งนี้มันต่างออกไป เธอมีความรักให้กับซันจริงๆ เพียงแต่ไม่มั่นใจในตัวเอง และไม่มั่นใจในการแสดงออกทางความรักให้คนเพศเดียวกับเธอก็เท่านั้น

แม้ว่าในซีรีส์ไม่ได้ปรากฏเนื้อหาว่าซันเคยมีแฟนหรือไม่ หรือเป็นเพศอะไร แต่เราก็พอจะอนุมานได้ว่าทั้งซันและองศาเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดภาพของผู้หญิงที่มีความรักต่อผู้หญิงด้วยกันออกมาได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับอีกสองตัวละครอย่าง ‘เอลิน’ และ ‘ลูน่า’ ที่ดูจะตระหนักรู้และเข้าใจถึงเพศสภาพและเพศวิถีของตัวเองเป็นอย่างดี เห็นได้จากฉากที่เอลินไม่ได้ตกใจที่องศาชอบผู้หญิง หรือลูน่าก็ไม่ได้ประหลาดใจที่เธอจะมีความรู้สึกให้กับรุ่นน้องที่ชื่อเอลินเช่นกัน ซีรีส์จึงนำสองตัวละครหลังนี้ไปขยี้ในปมการบูลลี่ภายในโรงเรียนเสียมากกว่า

อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจก็คือ ‘เจริญ’ เพื่อนร่วมห้องสายธรรมมะธรรมโมขององศาและซัน เพราะมีอยู่ฉากหนึ่งที่เจริญได้บังเอิญรู้ความลับเรื่องที่องศาแอบชอบซันเข้า และเธอก็เป็นฝ่ายยืนยันเองว่าผู้หญิงรักผู้หญิงก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เพราะเพื่อนผู้ชายของเธอเองก็ชอบผู้ชาย และ “เจริญชอบทุกคน” อันหมายถึงว่าเธอเองก็มีความหลากหลายอยู่ในตัว อาจจะเป็นไบเซ็กชวล เควียร์ หรืออื่นใดก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ซีรีส์ยังพาเราไปพบกับความลื่นไหลทางเพศของคู่ ‘ครูนิดา-ครูแบมแบม’ ที่รับบทโดย ก๊อตจิ และ กอล์ฟ สองพิธีกรติดตลกจากรายการเทยเที่ยวไทย ซึ่งทั้งสองก็ถ่ายทอดความลื่นไหลที่ไม่ใช่ลื่นล้มออกมาได้ชัดเจน ผ่านคาแรกเตอร์ของสองครูสาวทรานส์เจนเดอร์ที่ตกหลุมรักกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร แถมฉากบอกชอบของคู่นี้ก็ทำเอาคนดูสลัดภาพพิธีกร มาเขินตามสองตัวละครแบบสุดๆ

นอกจาก 23.5ฯ จะเล่าถึงความสัมพันธ์ใต้ร่มแซฟฟิคออกมาได้อย่างน่าสนใจแล้ว ตัวละครชายในเรื่องอย่าง ‘ต้น’ ‘ติณห์’ ‘มาวิน’ ก็ยังเป็นตัวละครที่สะท้อนความหลากหลายออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะมีทั้งต้น ผู้ชายที่มีคาแรกเตอร์มั่นใจ ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์และความสวยความงาม รวมถึงตัวละครติณห์และมาวิน ที่มาถ่ายทอดบทชายรักชาย เพิ่มสีสันในเรื่องให้หลายหลากขึ้นไปอีก

นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่นานๆ ทีจะมีซีรีส์หนึ่งเรื่องที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ และเพศในมิติที่แตกต่าง ไม่โฟกัสเพียงชาย-หญิง ชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง อย่างที่เคยเป็นมา นอกนี้ ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’ ยังไม่ได้ฉาบด้วยด้านสวยงามของความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเล่าเรื่องราวสะท้อนภาพความไม่มั่นใจในอัตลักษณ์ทางเพศ การปิดบังตัวตน หรือการกลัวสังคมไม่ยอมรับผ่านตัวละครหลักอย่างองศาไว้ได้น่าสนใจ และอาจนำไปซึ่งจุดเปลี่ยนอีกครั้งสำคัญของเรื่อง

หากใครอยากลองสัมผัสความน่ารักของความสัมพันธ์อันหลากหลาย ที่มาพร้อมประเด็นสังคมใหม่ๆ ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’ ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว