Highlight
- หลังจากโลกเผชิญกับไวรัสโควิด-19 เทรนด์โลกการทำงานได้ถูกทลายเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ สู่โลกการทำงานที่ยืดหยุ่นและหลากหลายมากกว่าเดิม
หลังจากที่โลกของเราเข้าสู่ยุคโรคระบาดมาหนึ่งปีเต็มในปี 2020 สิ่งที่เราเห็นอย่างชัดเจนคือชีวิตการทำงานของคนทั่วโลกเปลี่ยนไป ในบางประเทศการ Work from Home อยู่ยั่งยืนยงมาเกือบตลอดทั้งปีและมีแนวโน้มจะยาวต่อไปในปี 2021 โดยเฉพาะเมืองที่ยังคงมีการระบาดของโควิด-19
แล้วโลกการทำงานจะเป็นยังไงต่อไป?
จากแนวโน้มทั่วโลกนี่คือช่วงเวลาที่เปิดให้การทำงานยืดหยุ่นมากกว่าที่เคย ถ้าหากเราดูแนวโน้มเทรนด์การทำงานทั่วโลก จะพบว่าเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามาทำให้วัฒนธรรมการทำงานแบบ ‘ตอกบัตรเช้า–เย็น 5 วันต่อสัปดาห์’ นั้นอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะปัจจุบันบริษัทมีความต้องการสร้างบทบาทการทำงานที่ไม่ใช่เงื่อนไขเรื่องเวลา แต่เป็นเงื่อนไขเรื่องความเชื่อใจ ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชนมากกว่า
หลายประเทศมีแนวโน้มสนับสนุนนโยบายลดวันทำงานลง ในสหราชอาณาจักรอนุญาตให้พนักงานที่อายุการทำงานมากกว่า 26 สัปดาห์สามารถยื่นเรื่องเพื่อต่อรองเวลาและระเบียบการทำงานเพื่อให้เกิดการจัดสรรชีวิตที่ดีขึ้นได้ รวมถึงในนิวซีแลนด์ที่มีการเสนอนโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว และจัดสมดุลเวลางานกับชีวิต
รวมถึงเงื่อนไขเรื่องสถานที่ โควิด-19 ได้เข้ามาทลายเงื่อนไขนี้อย่างเห็นได้ชัดเจน บริษัทขนาดยักษ์หลายแห่งได้ประกาศว่าพนักงานสามารถ “เลือก” ที่จะไม่ต้องเข้าออฟฟิศได้ตลอดไป
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ได้ระบุว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าเชื่อว่าพนักงานครึ่งหนึ่งของ Facebook จะไม่เข้ามาทำงานในออฟฟิศ เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ เช่น Twitter ที่อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ตลอดไปถ้าหากต้องการ
รวมถึงธนาคารข้ามชาติ Barclays ก็อนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสถานที่ได้ และระบุว่าวัฒนธรรมที่พนักงานทุกคนต้องเข้าออฟฟิศอาจกลายเป็น “อดีต” ไปแล้ว
นอกจากนี้โลกการทำงานอาจเป็นสากลมากขึ้น เมื่อไม่ต้องเข้าออฟฟิศ หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่ในประเทศอื่นเพื่อทำงานในบริษัท และคุณสามารถทำงานบริษัทข้ามชาติได้แม้ว่าจะนั่งอยู่ที่บ้านของตัวเอง เปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มได้พบกัน และสร้างความหลากหลายของเพื่อนร่วมงานมากขึ้น งานวิจัยของ McKinsey & Company วิเคราะห์การทำงานของบริษัทขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่งใน 15 ประเทศ พบว่าการที่บริษัทมีความหลากหลายด้านเชื้อชาติเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์การทำงานที่ดีกว่าบริษัทที่มีความหลากหลายต่ำถึง 36%
นอกจากนี้ สำหรับตัวคนทำงานเอง การไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพจิตที่ได้อยู่สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือการเช่าที่พักด้วย งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Stanford ร่วมกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งที่ศึกษาพนักงาน 242 คนของบริษัทท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของจีน พบว่าผลงานของกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานแบบระยะไกล สามารถเพิ่มประสิทธิผลได้กว่า 13.5%
ดังนั้น การทำงานบริษัทในอนาคตอาจอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย ความยืดหยุ่นในการทำงานอาจเป็นสิ่งที่วัยทำงานปัจจุบันถามหามากกว่าเงื่อนไขอื่นใด
อ้างอิง:
- TCDC. เจาะเทรนด์โลก 2021 โดย TCDC> https://bit.ly/37LAreZ
- BBC. Coronavirus: Can I work from home overseas? > https://bbc.in/3lUY0qF
- CNN. These companies plan to make working from home the new normal. As in forever> https://cnn.it/33WXtOP