สำหรับคนที่เติบโต ‘หลัง’ ยุค สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการรัฐประหารในปี 2500 วันนี้เป็นได้หลายวัน ไม่ว่าจะเป็นวันสุดท้ายของวันสงกรานต์ วันเถลิงศกหรือวันเริ่มจุลศักราชใหม่ หรือเป็นวันปีใหม่ไทยหากนับตามแบบสมัยโบราณ
แต่สำหรับคนที่เกิดทันยุค ‘ก่อน’ สฤษดิ์ ธนะรัชต์ วันนี้จะกลายเป็น ‘วันแม่’ ได้ด้วย
ก่อนที่เราจะจดจำว่าวันแม่คือวันที่ 12 สิงหาคม อย่างในทุกวันนี้ มวลประชาประเทศไทยเคยจดจำวันที่ 15 เมษายน เป็นวันแม่มาก่อน
ทำไมวันแม่ ‘เคย’ เป็นวันที่ 15 เมษายน แล้วมันเกิดอะไรขึ้นถึงต้องเปลี่ยนแปลงไป? – คำตอบอยู่ในประวัติศาสตร์อีกมุมที่โรงเรียนอาจไม่เคยสอนคุณมาก่อน
นโยบายสร้างชาติด้วยแม่
หลังการปฏิวัติ 2475 รัฐบาลคณะราษฎรต้องการเร่งเพิ่มปริมาณประชากรให้ถึง 40 ล้านคน แต่จากการสำรวจสำมะโนครัวใน พ.ศ. 2480 ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 14 ล้านคนเท่านั้น
ในบรรดา 14 ล้านคน มีประชากรหญิงโสดอายุ 15 ปีขึ้นไปประมาณ 800,000 คน ส่วนชายโสดอายุ 17 ปีขึ้นไปมีอยู่ประมาณล้านนิดๆ สองกลุ่มประชากรนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่รัฐต้องการให้แต่งงานมีลูก จึงเกิดนโยบายกระตุ้นให้แม่มีลูกเยอะๆ พร้อมสอนการคลอดลูกให้ปลอดภัย ‘โรงเรียนผดุงครรภ์’ จึงเกิดตามมาใน พ.ศ. 2482 ตามด้วยการก่อตั้งกระทรวงสาธารณสุขใน พ.ศ. 2485
หลังกระทรวงสาธารณสุขก่อตั้งครบ 1 ปี ‘วันแม่แห่งชาติ’ ก็ถือกำเนิดครั้งแรกในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ถือเป็นมหกรรมสาธารณะทั่วประเทศ พร้อมกระตุ้นการสร้างความเชื่อในหมู่สตรีไทยว่า ‘การเป็นแม่คน คือ การสร้างชาติ’
วันแม่ครั้งใหม่ กับที่มาของ ‘ดอกมะลิ’
สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การจัดงานวันแม่ถูกระงับตามไปด้วย แต่พอพ้นภาวะสงคราม ในทศวรรษ 2490 วันแม่แห่งชาติถูกนำกลับมาจัดอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนแม่งานจากกระทรวงสาธารณสุขเป็น ‘สำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง’
นี่แหละคือตอนที่วันแม่ถูกกำหนดให้เป็นวันที่ 15 เมษายน ด้วยเหตุผลว่าช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่คนไทยมักกลับไปเยี่ยมครอบครัว จึงคล้ายเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ของตน
วันแม่ในแบบของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง จะมีการเปิดพื้นที่รับเรื่องร้องทุกข์และช่วยเหลือแม่ทั่วประเทศ มีการออกหนังสือที่ระลึกวันแม่ประจำปีเพื่อมอบความรู้ในด้านต่างๆ
และส่วนที่ ‘เด็ด’ คือการส่งเสริมเรื่องที่เคยถูกมองว่า ‘ธรรมดา’ ให้กลายเป็นบทบาทที่สำคัญมากๆ โดยมีการนำเสนอบทความยกระดับสถานภาพทางการเมืองของสตรี ซึ่งกล่าวไว้ว่า หากผู้ชายสามารถสร้างชาติได้ด้วยการเป็น ‘ทหาร’ ฉันใด ผู้หญิงก็มีส่วนสร้างชาติด้วยการเป็น ‘แม่’ ฉันนั้น รัฐจึงควรให้ความสำคัญและทำให้เป็นสถาบันหนึ่งของรัฐเช่นเดียวกับทหาร
ในหนังสือวันแม่ฉบับ พ.ศ. 2496 ‘ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม’ ภริยาของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รับหน้าที่เป็นประธานสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง เธอเขียนคำนำในหนังสือไว้ว่า
“แสดงความมีใจรำลึกถึงพระคุณของแม่ทั้งหลาย ผู้กำลังบำเพ็ญประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ชาติไทยในฐานะเป็นแม่แห่งชาติ”
และ ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม นี่ล่ะ ที่นำ ‘ดอกมะลิ’ ดอกไม้โปรดของ จอมพล ป. สามีของเธอ ให้มาเป็นสัญลักษณ์วันแม่และความรักของแม่
การสิ้นอำนาจคณะราษฎรและวันแม่ในความหมายใหม่
หลังคณะราษฎรหมดอำนาจ เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้นำรัฐประหารใน พ.ศ. 2500 แล้วหลายๆ สิ่งก็ถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย…
ไม่ว่าจะเป็น ‘วันชาติ’ ที่เคยเป็นวันที่ 24 มิถุนายน ของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบปฏิวัติสยาม 2475 ปัจจุบันก็เป็นวันที่ 5 ธันวาคม พร้อมพ่วงการสถาปนาให้เป็น ‘วันพ่อแห่งชาติ’ ไปแทน ส่วน ‘วันแม่แห่งชาติ’ ก็ไม่พ้นสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
หลังรัฐประหารไม่นาน ในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2500 ก็เกิดมติคณะรัฐมนตรีให้ตัดวันแม่ 15 เมษายน ออกจากวันหยุดราชการ แล้วต่อมาใน พ.ศ. 2519 วันแม่แห่งชาติ ก็เกิดใหม่อีกครั้งโดยเปลี่ยนเป็นวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จนกลายเป็นวันแม่อย่างที่เราคุ้นชินกันในปัจจุบัน
และนี่คือเรื่องราวของวันหยุดสงกรานต์ หนึ่งวันที่กลับซ่อนประวัติศาสตร์และบริบทสังคมในอดีตเอาไว้ หลังจากที่คุณอ่านเรื่องราวนี้จบลง วันใดที่ 15 เมษา วนมาอีกครา คุณอาจจะไม่ได้นึกถึงแค่ น้ำ ประแป้ง เยี่ยมญาติ หรือปีใหม่อีกต่อไป
แต่คุณอาจจะได้นึกถึง ‘แม่’ เพิ่มมาอีกด้วย
อ้างอิง
- ชานันท์ ยอดหงษ์. หลังบ้านคณะราษฎร ความรัก ปฏิวัติ และการต่อสู้ของผู้หญิง. กรุงเทพฯ: มติชน. 2564
- กรุงเทพธุรกิจ. ‘สงกรานต์‘ 2564 กับ 3 วันสำคัญช่วงปีใหม่ไทย 13-14-15 เม.ย. คือวันอะไรบ้าง?. https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/875735