ถ้าจะพูดถึงสัตว์ที่ “เร็วที่สุดในโลก” หลายคนก็คงจะนึกถึงเสือชีตาห์
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ถ้าเทียบกับนักวิ่งลมกรด ไม่ว่าคนไหนก็ช้ากว่าพวกมัน
ลองเทียบง่ายๆ มนุษย์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก วิ่ง 100 เมตรได้ในเวลา 10 วินาที แต่เสือชีตาห์ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 6 วินาทีเท่านั้น
ซึ่งความเร็วที่ว่านี้คือ “ทักษะทำมาหากิน” ของพวกมัน เพราะเสือชีตาห์ต้องวิ่งไล่ล่าเหยื่อมากิน
1.
เสือชีตาห์จึงเป็นนักล่าที่ “เร็ว” ที่สุดแห่งพื้นดินแอฟริกา และในบรรดาสัตว์ตระกูลแมวใหญ่ เสือชีตาห์เป็นสัตว์ที่อัตราการล่าสำเร็จสูงสุดถึง 58%
สูงกว่าเสือดาวที่อัตราการล่าสำเร็จอยู่ที่ 48% และคงก็ไม่ต้องพูดถึงพวกไฮยีนา (สัตว์ตระกูลแมวเช่นกัน) หรือกระทั่งสิงโต ที่มีอัตราการล่าสำเร็จอยู่เพียง 33% และ 25% ตามลำดับ (สิงโตนี่ดูเท่ห์ แต่ในธรรมชาติ พวกมันเป็น “นักล่า” ที่กระจอกมากๆ)
ซึ่งความลับของความสำเร็จก็คือ “ความเร็ว” นี่แหละ และก็ไม่ได้เร็วดื้อๆ แบบวิ่งทางตรง แต่มันเบนทิศทางได้เร็วมาก (ไม่งั้นก็คงจะล่ากวางไม่ได้)
2.
ในทางวิวัฒนาการ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เสือชีตาร์ไม่ได้ตัวใหญ่ กล้ามไม่โต แต่ปราดเปรียว งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในสายพันธุ์เดียวกัน สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดคือสัตว์ขนาดกลาง
เพราะสัตว์ใหญ่ แม้จะมีกล้ามเนื้อมาก แต่ก็ทำให้ตัวใหญ่ และช้า หรือถ้าขายาวเกินไป แม้ว่าตัวจะสูง แต่ก็ทำให้ขารับน้ำหนักในความเร็วสูงๆ ไม่ได้
นี่เลยเป็นเหตุผลว่า เสือชีตาห์ที่เป็นสัตว์ตระกูลแมวขนาดกลาง ระหว่างพวกแมวเล็กอย่างแมวป่า และแมวใหญ่อย่างสิงโตหรือเสือโคร่ง เป็นสัตว์ตระกูลแมวที่วิ่งได้เร็วที่สุด
3.
แม้ว่าชีตาร์จะประสบความสำเร็จในการล่าสูงสุด ในบรรดาสัตว์ตระกูลแมว แต่มันก็ไม่ได้กินเหยื่อเสมอไป
เพราะหลังจากวิ่งเสร็จ หลายครั้งมันจะเหนื่อยเกินกว่าจะต่อสู้ สิ่งที่มันต้องทำก็คือ ลากเหยื่อมาในที่สงบเพื่อจะกินโดยไม่ต้องมีอะไรมารบกวน และหากพวกมันจะลากเหยื่อมาครึ่งกิโลเมตรก็ไม่แปลกอะไร เพราะสถิติสูงสุดที่มีการบันทึกระบุว่า เสือชีตาห์ลากเหยื่อไกลถึง 7 กิโลเมตร เพื่อจะกินอย่างสงบ
เรียกได้ว่าเสือซีตาห์ทุ่มทุนในการเดินหาที่ลากเหยื่อไปกินมาก ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะพอล่าเสร็จ ถ้าพวกสิงโตหรือไฮยีนาโผล่มา ชีตาห์จะวิ่งหนี เพราะสู้ไม่ได้ เรียกว่าสู้ตัวต่อตัวยังไม่รอด ถ้าโดนรุมนี่ไม่ต้องพูด
ส่วนหนึ่งเราต้องเข้าใจว่า สิงโตหรือไฮยีน่าเป็นพวกเก็บซากสัตว์กิน (Scavenger) นั่นคือการไปแย่งอาหารของนักล่าที่ตัวเล็กกว่าอย่างชีตาห์ หรือจะเรียกว่าเสือชีตาห์ต้องล่าสัตว์มาแล้วอาจจะเจอกับสถานการณ์ “สิงโตคาบไปแดก” หรือ “ไฮยีน่าคาบไปแดก” อยู่ร่ำไปก็ได้
4.
ทั้งนี้ มีงานศึกษาประเมินว่าตามธรรมชาติ เสือชีตาห์ต้องสละเหยื่อที่ล่าให้กับสัตว์ตระกูลแมวที่ใหญ่กว่าประมาณ 10%
และบันทึกก็ระบุว่า บางครั้งเสือชีตาห์ต้องหลบให้สัตว์ที่เล็กกว่าอย่างฝูงอีแร้งก็มี
เรียกได้ว่าเป็น “แมว” ที่กระจอกจริงๆ โดน “นก” แย่งอาหารได้
และนี่ก็คือเรื่องราวของเสือชีตาห์นักล่าอันดับต้นๆ แห่งแอฟริกา ที่ไม่มีปัญญาจะสู้เวลากับใคร เมื่อพวกมันโดนแย่งเหยื่อ
อ้างอิง:
- BBC. The truth about cheetahs. https://bbc.in/3mriSGG
- Live Science. Lizard Study Reveals Why Cheetahs Are the World’s Fastest Animals. https://bit.ly/3kKWfgh