เศรษฐกิจของรัสเซีย

3 Min
40 Views
21 Feb 2024

เศรษฐกิจสมัยใหม่ของรัสเซีย

  • รัสเซียคือดินแดนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกมองว่าเป็นมหาอำนาจทางทหารที่มีคลังแสงนิวเคลียร์มากที่สุด และเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งต่าง ๆ แต่ถึงแม้จะมีอิทธิพลทางการเมืองและการทหารที่สำคัญ แต่เศรษฐกิจของรัสเซียกลับไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างจีนหรือสหรัฐอเมริกา

The Washington Consensus

  • การเปลี่ยนผ่านจากระบบคอมมิวนิสต์ไปสู่ระบบเศรษฐกิจตลาดเสรี ส่งผลให้รัสเซียมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างน้ำมัน ก๊าซ และโลหะ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้รัสเซียมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ความไม่มั่นคงทางการเมืองก็อาจส่งผลกระทบต่อประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรอย่างรัสเซียได้เช่นกัน

  • หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย รัสเซียเผชิญกับความไม่มั่นคงและการทุจริต ขณะที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจแบบรัฐสังคมนิยมโซเวียตไปเป็นระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี ซึ่งแตกต่างกับจีนที่เปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้จะเป็นประเทศคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกัน

  • ภายใต้การปฏิรูปตลาดอย่างรุนแรงที่เรียกว่า Shock Therapy ของ Boris Yeltsin ซึ่งอิงตาม Washington Consensus (กลุ่มนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสถาบันสำคัญใน Washington DC) รัสเซียได้เปลี่ยนผ่านจากแถวซื้อขายซุปและโควต้าแรงงานในวันหนึ่ง กลายเป็นร้านสตาร์บัคส์และตลาดหุ้นในวันถัดไป

  • แนวทางหลักของ Washington Consensus ได้แก่

    1. วินัยทางการคลัง (ลดการใช้จ่ายและเงินอุดหนุนของรัฐบาล มุ่งเน้นบริการที่ส่งเสริมการเติบโตและช่วยเหลือคนยากจน เช่น การศึกษา ระบบสาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐาน)

    2. ปฏิรูปภาษี (ขยายฐานภาษี ใช้ภาษีอัตราก้าวหน้าที่ไม่รุนแรง)

    3. อัตราดอกเบี้ยตามกลไกตลาด

    4. อัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้

    5. เสรีการค้า (มุ่งเน้นการยกเลิกข้อจำกัดเชิงปริมาณ)

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอันน่าหดหู่ของรัสเซีย

  • รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งครั้งใหญ่ ถึงแม้จะมีทรัพยากรมากมาย แต่เศรษฐกิจของรัสเซียยังไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพได้อย่างเต็มที่ หากรัสเซียเลือกเส้นทางที่แตกต่างไป รัสเซียอาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในปัจจุบัน นับเป็นโอกาสที่สูญเปล่าไปสำหรับประเทศที่มีศักยภาพในการประสบความสำเร็จอย่างมาก

กลุ่มผู้ทรงอิทธิพล

  • ในปี 1998 รัสเซียเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล ที่ส่งเงินออกนอกประเทศ ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่รัฐบาลกำหนดไว้สูงเกินจริง สิทธิแรงงานถูกริดรอน นักลงทุนต่างดึงเงินออก ส่งผลให้การสำรองเงินตราของธนาคารกลางรัสเซียลดลงอย่างรุนแรง

กลุ่มธนาคารโลก

  • ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ พยายามให้ความช่วยเหลือด้วยเงินกู้มูลค่า 22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียหวนกลับไปสู่ระบบสังคมนิยมแบบโซเวียต แต่น่าเสียดายที่เงินกู้จำนวน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถูกยักยอกโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัสเซีย

การพลิกผันของรัสเซีย

  • ภาวะตกต่ำของรัสเซียนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก โดยในปี 1999 ปูตินขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ดำเนินการปฏิรูป และยกเลิกข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน แม้จะยังคงมีการทุจริตแพร่ระบาด แต่เศรษฐกิจกลับดีขึ้น

  • ในทศวรรษถัดมา ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ควบรวมกิจการ ทำให้สามารถแข่งขันในระดับโลก ประชาชนชาวรัสเซียได้รับประโยชน์จากระบบการเงินแบบตะวันตก ถึงแม้การกระจายความมั่งคั่งจะยังไม่เท่าเทียมแต่ถือเป็นเรื่องปกติในระบบเศรษฐกิจตลาดเสรี

  • รัสเซียสามารถผ่านพ้นวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2008 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2013 เห็นได้ว่าการมีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง

การรุกรานไครเมีย

  • ในปี 2014 รัสเซียได้รุกรานไครเมีย ทำให้สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา และญี่ปุ่น บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดย 1. ห้ามการจัดหาเทคโนโลยีสำหรับการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ 2. จำกัดการเดินทางของบุคคลใกล้ชิดของปูติน 3. จำกัดการให้สินเชื่อแก่บริษัทน้ำมันของรัสเซียและธนาคารของรัฐ

  • เนื่องจากการสำรองเงินตราต่างประเทศจากการขายน้ำมันและก๊าซในต่างประเทศ ส่งผลให้เงินรูเบิลอ่อนค่าลงในตลาดโลก สิ่งนี้อำนวยประโยชน์แก่ผู้ส่งออกของรัสเซีย แต่ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัว อัตราเงินเฟ้อสูง และสินค้าที่นำเข้าขาดแคลน

  • ผู้มีอำนาจในรัสเซียเพิกเฉยต่อผลกระทบเชิงลบต่อประชาชนทั่วไป ต่างจากประเทศประชาธิปไตยอย่างออสเตรเลียหรือสหรัฐอเมริกา ที่รักษาอำนาจด้วยการตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง แต่อำนาจของรัสเซียกลับถูกควบคุมโดยกลุ่มเล็ก ๆ ที่ดูแลอุตสาหกรรมสำคัญ  

  • การรุกราน การทุจริต และการบริหารจัดการที่ผิดพลาดในอดีต อาจนำไปสู่การลดอันดับเศรษฐกิจของประเทศรัสเซีย ทำให้การทำธุรกิจในรัสเซียมีความเสี่ยง และกระตุ้นให้หลายธุรกิจมองหาโอกาสในประเทศอื่น

ขอบคุณข้อมูลจาก :

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.theflagshop.co.uk/russia-flag.html

งานเขียนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชา

751309 Macro Economic 2

ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

งานชิ้นนี้ เขียนโดย

รัฐนันท์ อนันตพรรค 651610376