เข้าใจ จริงใจ เข้าถึง…หัวใจของการทำแบรนด์โฟมล้างมือ คิเรอิคิเรอิ จนกลายเป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน

การเป็นแบรนด์ที่ผู้คนไว้วางใจ และนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ  อาจเริ่มต้นจากการที่แบรนด์ไม่ได้มองหาผลกำไรเป็นอันดับแรก แต่แบรนด์เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงใจ และสื่อสารอย่างเข้าถึง

ท่ามกลางปีแห่งโรคระบาด ทุกคนตระหนักว่าเชื้อโรคตัวเล็ก ๆ สามารถส่งผลกับร่างกายเราอย่างร้ายกาจ และหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการปกป้องเราจากเชื้อโรคคือ “การล้างมือ” มีสินค้าและผลิตภัณฑ์มากมายเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ในสินค้าเหล่านั้น Kirei Kirei (キレイ キレイ) ยังคงยืนเป็นแบรนด์โฟมล้างมือยอดขายอันดับหนึ่งทั้งในไทยและญี่ปุ่น* มาโดยตลอด

ด้วยความที่โฟมล้างมือ Kirei Kirei เป็นแบรนด์ที่เกิดและเติบโตจากสถานการณ์โรคระบาดในประเทศญี่ปุ่นช่วงปี 1997 จึงเข้าใจความสำคัญของความสะอาด และยืนหยัดในการช่วยปกป้องผู้คนจากเชื้อโรค  ผ่านฟองโฟมนุ่มที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้มีพื้นที่ผิวในการสัมผัสสิ่งสกปรกได้ทั่วถึง จึงสามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึกและนุ่มนวล พร้อมทั้งลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.99%**

การเป็นแบรนด์ที่ทุกคนยกให้เป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพราะผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีและสม่ำเสมอเท่านั้น แต่เป็นเพราะ Kirei Kirei เข้าใจการตลาดในปัจจุบัน ว่าการได้ใจผู้บริโภคต้องใช้ความ “จริงใจ” “เข้าถึงได้” และ “เข้าใจง่าย”

ในวันล้างมือโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม Kirei Kirei จึงได้แสดงความห่วงใยในความสะอาดของผู้คน ผ่านแคมเปญ #ส่งต่อมือสะอาด ที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้

Kirei Kirei ใช้วิธีการอย่างไรในการเข้าถึงใจคนบ้าง มาดูกัน

แม้ว่าความสะอาดและการป้องกันเชื้อโรคจะเป็นเรื่องจริงจัง แต่ Kirei Kirei ใช้วิธีการสื่อสารเรื่องนี้แบบ “ง่าย ๆ” เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความตั้งใจ และ key message ของแบรนด์ แคมเปญ #ส่งต่อมือสะอาด จึงใช้วิธีจูงใจผู้คนมาร่วมใช้ โฟมล้างมือไล่เชื้อโรค ผ่านฟีเจอร์น่ารัก ๆ ของ IG Filter ที่ใคร ๆ ก็เข้ามาสนุกร่วมกันได้

ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่ใน IG Filter ยังพูดถึงขั้นตอนการล้างมือที่ถูกต้อง 7 ขั้นตอนตามหลักของกรมอนามัย มาให้ผู้เล่นทุกคนได้มาสนุกร่วมกัน

ทุกครั้งที่กดถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอ การกดเล็ก ๆ นั้นจะแปลงสภาพเป็นเงินมูลค่า 10 บาททันที ซึ่งแบรนด์จะส่งมอบเงินจำนวนนี้ให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ด้วยแนวคิดที่ว่าการสร้างสุขนิสัยที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก และเด็ก ๆ ทุกคนควรได้รับโอกาสนั้น พร้อมทั้งโอกาสในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพด้วย 

Kirei Kirei มีคอนเซปต์การสื่อสารภาพลักษณ์ที่อบอุ่นแบบครอบครัว เหมือนคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่คอยเตือนให้เด็ก ๆ หมั่นล้างมือจนเป็นนิสัย ซึ่งเป็นการปลูกฝังนิสัยรักความสะอาดที่ยั่งยืน

แคมเปญสื่อสารของ Kirei Kirei จึงต้องการสื่อสารถึงเด็ก ๆ และคุณแม่ เพราะเด็ก ๆ มักเล่นซนทั้งในและนอกบ้าน จนอาจเอาเชื้อโรคเข้าปากโดยไม่รู้ตัว แถมยังภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง จึงอาจป่วยได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 

Kirei Kirei จึงใช้วิธีการ “ส่งต่อ” ความตั้งใจ และ key message ของแบรนด์ ผ่าน Influencer กลุ่มแม่และเด็ก เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ ให้เกิดความรู้สึกอยาก “ส่งต่อ” ความใส่ใจ มือที่สะอาด และความรู้สึกดีๆ ไปให้กับเหล่าน้องๆ ในมูลนิธิ

ไม่ใช่เพียงแค่บนโลกออนไลน์เท่านั้น Kirei Kirei ยังส่งต่อความตั้งใจ และ key message ของแบรนด์ ผ่านกิจกรรมเดินรณรงค์ในวันล้างมือโลก พร้อมแจกเจลล้างมือ Kirei Kirei ให้กับผู้คนบนท้องถนน เส้นสาทร-ศาลาแดง และอโศก เพื่อย้ำเตือนทุกคนถึงความอันตรายของเชื้อโรค และ “อย่าการ์ดตก” ต่อสถานการณ์โรคระบาด โดยเจลล้างมือ Kirei Kirei นั้น สามารถลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.999%*** จึงมั่นใจได้ว่าช่วยลดความเสี่ยงจากโรคระบาดได้แน่นอน

นอกจากการเดินรณรงค์แล้ว ยังมีการวางเจลล้างมือ Kirei Kirei ไว้ตามรถไฟฟ้า BTS สถานีต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการที่เดินทางไปมาตลอดวันได้กดใช้ ล้างมือถูเอาเชื้อโรคออกไป และถึงแม้แคมเปญจะสิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ด้วยความห่วงใย แบรนด์ยังมอบเจลล้างมือให้ผู้ใช้บริการ BTS ไปจนถึงปลายเดือนธันวาคม 2563 นี้

Kirei Kirei ยังได้จัดทำตู้ขายอัตโนมัติ (Vending Machine) เพื่อกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายในการซื้อสินค้ามากขึ้น หากวันไหนลืมพกเจลหรือสเปรย์ล้างมือออกจากบ้าน ก็จะได้สามารถกดซื้อจากตู้ขายอัตโนมัติได้เลย เป็นการส่งเสริมการรักษาสุขอนามัยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ Kirei Kirei ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งในกรุงเทพฯ โดยโรงพยาบาลเหล่านั้นเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Kirei Kirei ทั้งกับคนไข้และผู้เข้ารับบริการใช้ตามจุดต่าง ๆ เพราะมั่นใจว่า Kirei Kirei เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และลดการสะสมแบคทีเรียได้ดี กลยุทธ์นี้จึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงสร้างความไว้วางของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ว่า Kirei Kirei จะสามารถช่วยปกป้องชีวิตของทุกคนในครอบครัวจากเชื้อโรคและแบคทีเรีย

ปี 2020 คนทั่วโลกหันมาสนใจความสะอาดและสุขอนามัยมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ซึ่ง Kirei Kirei ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ในการดูแลสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งใช้ความจริงใจ และเข้าใจในวิธีสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างทันสมัย เจาะหลายกลุ่มการตลาด อย่างที่เราเห็นในแคมเปญ #ส่งต่อมือสะอาด ที่ใช้แพลตฟอร์มหลากหลาย ตั้งแต่ Filter IG สำหรับคนรุ่นใหม่ Influencer แม่และเด็กที่สามารถเพื่อเข้าถึงกลุ่มครอบครัว ไปจนถึงการรณรงค์ผ่านออฟไลน์สำหรับคนทั่วไปบนท้องถนน

เพื่อเป็นการสื่อสารให้ผู้บริโภคมองเห็นคุณค่า และความห่วงใยที่แบรนด์มีให้ ผ่านการสร้างนิสัยรักสะอาดที่ยั่งยืน และไปไกลมากกว่าการล้างมือป้องกันตัวในช่วงโรคระบาด นอกจากนี้ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เข้าใจง่าย ทำให้ Kirei Kirei ยังครองตำแหน่งแบรนด์ทำความสะอาดที่เป็นอันดับหนึ่งและครองใจผู้บริโภคจนถึงตอนนี้ 

#HandTagChallenge #HandTag #ส่งต่อมือสะอาด

*โฟมล้างมือคิเรอิคิเรอิ ขายดีอันดับหนึ่งในไทยและญี่ปุ่น โดยสำรวจส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่ล้างมือ: ในไทย สำรวจโดย Nielsen ในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านขายของชำแบบดั้งเดิม ตั้งแต่ ม.ค. 55 – เม.ย.63 และในญี่ปุ่น สำรวจโดย INTAGE Inc. ในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านขายส่ง ตั้งแต่ ม.ค. 43 – ธ.ค. 62

** จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยวิธีมาตรฐาน ASTM E2315 กับเชื้อ Escherichia coli (ATCC25922) และ Pseudomonas aeruginosa (ATCC27853) สำหรับสูตรออริจินัล, รีเฟรชชิ่ง เกรป และมุราซากิ ลาเวนเดอร์

*** จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการด้วยวิธี ตามมาตรฐานสหภาพยุโรป 1276 (EN 1276:2009 Chemical disinfectants and antiseptics) กับเชื้อ Staphylococcus aureus (ATCC 6538), Escherichia coli (ATCC 10536), Enterococcus hirae (ATCC 10541) และ Pseudomonas aeruginosa (ATCC 15442)