สำรวจความเหงาคมชัดระดับ 4K กับ 5 ภาพยนตร์ ‘หว่อง กาไว’ เข้าฉายต.ค. – ธ.ค. 2020

4 Min
930 Views
31 Oct 2020

แม้ช่วงนี้การ ‘กระทำความหว่อง’ จะไม่ใช่เทรนด์ฮิตติดกระแส แต่เชื่อว่า ‘หนังหว่อง’ หรือภาพยนตร์ของผู้กำกับและนักเขียนบทชาวฮ่องกง ‘หว่อง กาไว’ ก็ยังควรค่าแก่การรับชมทุกยุคทุกสมัย

ปลายเดือนตุลาคม จนถึงธันวาคมนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี เพราะภาพยนตร์ของหว่องกาไวจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทย แถมยังถูกนำมาปรับความคมชัดเพื่อฉายในความละเอียดระดับ 4K เรียกความรู้สึกเปลี่ยวเหงา เคล้าบรรยากาศโรแมนติกได้ทุกอณูเป็นแน่

เอาล่ะ เราสรุปเรื่องราวคร่าวๆ ของ ‘หนังหว่อง’ ทั้ง 5 เรื่องมาฝากกัน

1. In the Mood for Love (2000)

กำหนดฉาย: 29 ต.ค.

เรื่องรักบาดลึกกับความสัมพันธ์ไร้ชื่อเรียกของ ‘คุณนายชาน’ (จางมั่นอวี้) และ ‘คุณเชา’ (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่บังเอิญย้ายมาอยู่ห้องเช่าติดกัน ในวันเดียวกัน ซ้ำยังมีคู่สมรสที่อยู่ห่างไกลทั้งสองฝ่าย พวกเขาจึงตกอยู่ในชะตากรรมที่คล้ายคลึง เมื่อเวลาล่วงเลยไป ความสัมพันธ์ระยะไกลที่เคยไปได้สวยก็เริ่มสั่นคลอน จนมาถึงจุดแตกหัก เพราะทั้งคุณนายชานและคุณเชาพบว่าตนถูก ‘คนรักทรยศหักหลัง’

ท่ามกลางความเจ็บปวดแสนสาหัส พวกเขาตัดสินใจเลือกไม่เดินทางซ้ำรอยกับสามีภรรยาของตัวเอง และคอยปลอบประโลมกันอย่างเข้าอกเข้าใจ แต่นานวันเมื่อได้พบเจอ และเรียนรู้กันมากขึ้น ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านก็พัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจย้อนกลับสู่จุดเดิม

In the Mood for Love คือภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของ ‘หว่อง กาไว’ ในปี 2000 และเป็นภาพยนตร์ที่ขึ้นชื่อว่าทำยากที่สุดสำหรับเขา ซึ่งใช้เวลาถ่ายทำถึง 15 เดือนโดยไม่มีสคริปต์หรือบทใดๆ ฉากหลังของ In the Mood for Love เล่าถึงฮ่องกงในปีค.ศ. 1962 (ช่วงที่หว่อง กาไว มีอายุเพียง 5 ขวบ) และยกกองมาถ่ายทำถึงที่กรุงเทพฯ ในย่านบางรัก-เจริญกรุง

2. Happy Together (1997)

กำหนดฉาย: 10 พ.ย.

ความสัมพันธ์แบบรักๆ เลิกๆ ของไหล่เยี่ยฟา (เหลียงเฉาเหว่ย) และ โหวเป่าหวัง (เลสลี จาง) คู่รักชายที่หมายมั่นจะไปเที่ยวน้ำตก ‘อีกัวซู’ ที่ประเทศอาร์เจนตินาด้วยกัน แต่เกิดทะเลาะขัดแย้งและเลิกรากะทันหัน ซึ่งนั่นไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการแยกทาง ‘เยี่ยฟา’ จับพลัดจับผลูไปเป็นไกด์ในกรุงบัวโนสไอเรส ขณะที่ ‘เป่าหวัง’ ค้าบริการทางเพศ แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ไกลกัน แต่วันหนึ่งโชคชะตาก็พาทั้งคู่มาเจอกันอีกครั้ง และกลับเข้าสู่วังวนความสัมพันธ์ที่รู้ว่าจะจบแบบเดิม เรื่องราวดำเนินไป โดยมีตัวละครและสถานการณ์ใหม่เข้ามามากมาย แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันแบบ Happy Ending หรือไม่? ต้องตามไปดู

Happy Together เป็นภาพยนตร์ที่ติด Top list ของหนัง LGBT ตะวันออกที่ดีที่สุด นี่คือผลงานการกำกับเรื่องที่ 6 ของหว่อง กาไว ที่จะพาคุณไปสำรวจความเหงาเคล้าบรรยากาศเศร้าหม่นในอาร์เจนตินา พร้อมฉากอีโรติกหวือหวาเร่าร้อนของสองนักแสดงฮ่องกงแถวหน้าแห่งยุค 80

3. Fallen Angels (1995)

กำหนดฉาย: 26 พ.ย.

สำรวจความเปลี่ยวเหงาและเว้าแหว่งในจิตใจ ของสามตัวละครที่โคจรเฉียดกันแบบห่างๆ ได้แก่ ‘หว่องฉีหมิง’ (ไหลหลี่หมิง) นักฆ่าหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ที่อยากวางมือเพราะเจอหญิงที่ถูกใจ กับสาวผู้ว่าจ้างลึกลับ ‘มิเชลล์ ไรส์’ (หลี่เจียซิน) ที่แอบรักมือสังหารผู้นี้อย่างเงียบๆ และ ‘เหอจื้อหวู่’ (ทาเคชิ คาเนชิโร่) หนุ่มใบ้ที่ชอบสวมรอยเป็นเจ้าของร้านอาหาร และได้พบพานกับสาวผมบลอนด์ที่ยังลืมรักครั้งเก่าไม่ลง

นี่คือภาพยนตร์ที่ฉายภาพความเหงาระดับปัจเจกฯ ของสังคมเมืองได้เป็นอย่างดี ฮ่องกงยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วย แสง สี เสียงเซ็งแซ่ และผู้คนเดินสวนกันพลุกพล่านบนท้องถนน แต่ตัวละครทั้งสามยังคงโหยหาใครสักคนมาเติมเต็มด้านที่เว้าแหว่ง ‘Fallen Angels’ เป็นผลงานกำกับของ หว่องกาไว หลัง ‘Chungking Express’ ที่แม้จะไม่ใช่ภาคต่อ แต่ก็มีความคล้ายคลึงกัน ทั้งบรรยากาศและการเล่าเรื่อง ถ้าใครชอบ Chungking Express เรื่องนี้พลาดไม่ได้

4. 2046 (2004)

กำหนดฉาย: 10 ธ.ค.

‘โจวมู่หวัน’ (เหลียงเฉาเหว่ย) หนุ่มนักหนังสือพิมพ์ชาวฮ่องกงผู้ผิดหวังในความรัก ที่หนีไปพักใจที่สิงคโปร์ ก่อนจะผันตัวเป็นเพลย์บอย พำนักอาศัยอยู่ในห้องหมายเลข 2046 และมีสัมพันธ์สวาทกับหญิงสาว 4 คน นี่คือเรื่องราวที่แสนคลุมเครือของความสัมพันธ์ และกาลเวลาอันซับซ้อนวกวน ไทม์ไลน์ของเรื่องราวเกิดขึ้นในห้วงเวลาสมมุติหรือโลกในปี 2046 ถึงแม้ตัวหนังจะพาเราพุ่งทะยานสู่อนาคตด้วยรถไฟขบวนพิเศษ แต่เนื้อหาแท้จริงกลับพาเราย้อนกลับไปยังอดีตที่โหยหา และเผชิญหน้ากับความทรงจำที่ฝังลึกยากจะลืม

‘2046’ ไม่เพียงคละคลุ้งด้วยอดีตของตัวละคร แต่ยังรวมถึงจักรวาลของ ‘หนังหว่อง’ ที่ทำให้เราหวนนึกถึง In the Mood for Love, Days of Being Wild และภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ด้วย 2046 ถูกขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำเอาหลายคนมึนตึ้บ จนต้องดูซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังงดงามตามแบบฉบับหว่องกาไวอยู่ดี

5. Chungking Express (1994)

กำหนดฉาย: 24 ธ.ค.

สับปะรดกระป๋องหมดอายุ สบู่เพรียวบาง และผ้าขนหนูที่หลั่งน้ำตา

Chungking Express คือภาพยนตร์ที่ย้ำเตือนว่า ‘ทุกอย่างบนโลกล้วนมีวันหมดอายุ ความรักก็เช่นกัน’ เรื่องราวของหนังว่าด้วย ‘223’ (คาเนชิโร ทาเคชิ) ตำรวจหนุ่มที่ถูกแฟนสาวทิ้งในวันที่ 1 เมษายน 1994 เขาเริ่มทำพฤติกรรมเพี้ยนๆ อย่างการวิ่งหมดเรี่ยวแรง เพื่อให้น้ำในร่างกายระเหยหายจนไม่เหลือน้ำตา และการกวาดซื้อสัปปะรดกระป๋องในร้านสะดวกซื้อที่จะหมดอายุวันที่ 1 พฤษภาคม 1994 มากิน เพื่อเป็นข้ออ้างในการรอคอยคนรักที่ไม่กลับมา จนได้พบกับสาวผมบลอนด์ในบาร์แห่งหนึ่ง

ชีวิตของ ‘223’ ถูกเล่าขนานไปกับนายตำรวจอีกคน ‘663’ (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่โดนแอร์โฮสเตสสาวหักอก หลังใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับการเข้าเวรกะดึก กาแฟดำรสขม และสนทนากับข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องอย่างเปลี่ยวเหงา จนมองข้าม ‘อาเฟย’ (เฟย์ หว่อง) พนักงานร้านอาหาร Express ที่สนใจในตัวเขา เธอแอบลอบเข้าห้องพักของ ‘663’ อยู่บ่อยๆ และคอยจัดระเบียบสิ่งของอย่างเงียบเชียบ จนวันหนึ่ง ‘663’ ก็ได้รับรู้ถึงสิ่งรอบข้างที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป

Chungking Express เป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้ ‘หว่อง กาไว’ เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้กำกับชื่อดังอย่าง ‘เควนติน ทารันติโน’ ผู้ติดตามผลงานของ หว่อง กาไว ก็ได้นำหนังเรื่องนี้ไปฉายที่อเมริกาจนโด่งดังในระดับโลก

มากระทำความหว่องร่วมกันได้ในโรงภาพยนตร์เครือ Major Cineplex, SF Cinema และ House สามย่าน ตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2020 เลย!