รู้จัก Zhong Shanshan นักธุรกิจน้ำแร่ที่ขึ้นแท่นเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนในเวลาสั้นๆ

เวลาพูดถึง ‘มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน’ คนมักจะนึกถึงแจ็ค หม่า แห่ง Alibaba หรือไม่ก็นึกถึงโพนี่ หม่า แห่ง Tencent

เพราะสองคนนี้ขับเคี่ยวอันดับ 1 และ 2 มาตลอด (ใครจะเป็นอันดับ 1 ก็ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในเวลานั้น)

แต่ตอนนี้โลกคงต้องจารึกชื่อ Zhong Shanshan แห่ง Nongfu Spring เข้าไปอีกคน เพราะเมื่อต้นเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา บริษัทของเขาเพิ่งประกาศขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) ที่ตลาดหุ้นฮ่องกง และราคาหุ้นพุ่งพรวด จนทำให้เขารวยขึ้นไปทัดเทียมกับบรรดามหาเศรษฐีจีน

ช่วงที่หุ้นของเขาราคาพีคๆ เขารวยยิ่งกว่าแจ็ค หม่า อีก (ตอนนี้ราคาหุ้นลงมานิดหน่อย แต่เขาก็ยังอยู่ใน Top 3 ของเศรษฐีจีน)

1.

เรื่องราวของ Zhong Shanshan ค่อนข้างประหลาดพอควร เพราะชายวัย 65 ปีคนนี้ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีระดับท็อปของจีนแบบไม่มีใครคาดคิด

ส่วนที่ว่าแปลกไม่ใช่เพราะเขาแก่ แต่เพราะเขามาจากธุรกิจที่ปกติเจ้าของธุรกิจจะไม่ติดอันดับเศรษฐีระดับท็อป

เนื่องจากเศรษฐี 10 อันดับแรกของจีน ถ้าไม่รวยจากอสังหาริมทรัพย์ ก็จะรวยจากเทคโนโลยี แต่สำหรับ Zhong Shanshan เขากลับรวยจากการขาย ‘น้ำแร่’

แต่ Nongfu Spring ก็ไม่ใช่บริษัทน้ำแร่ธรรมดา แต่เป็นบริษัทเครื่องดื่มระดับ Top 3 ของจีนแผ่นดินใหญ่

ทั้งนี้ ก็น่าสงสัยว่าทำไมหุ้นบริษัทน้ำแร่จะพุ่งขึ้นขนาดนี้?

ทำไมคนถึงแห่กันไปซื้อจนทำให้เจ้าของบริษัทกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีจีนแบบงงๆ ล่ะ?

คำตอบอยู่ที่ “ตลาด” ที่หุ้นตัวนี้ไปเปิดตัว

2.

หุ้นของ Nongfu Spring เป็นหุ้นที่ไปเปิดที่ตลาดฮ่องกง สาเหตุที่หุ้นตัวนี้บูม ก็เพราะนักลงทุนนานาชาติซื้อหุ้นในตลาดจีนไม่ได้ เนื่องจากตลาดหุ้นจีนควบคุมการซื้อหุ้นของชาวต่างชาติจริงจังมาก

อธิบายง่ายๆ คือ จำกัดเฉพาะผู้ซื้อเชิงสถาบัน และมีจำกัดโควต้าด้วย สาเหตุที่จีนทำแบบนี้ก็เพราะต้องการลดการผันผวนของราคาหุ้น (ใครรู้จักหุ้นจีนก็คงสงสัยว่า “นี่ลดการผันผวนแล้วเหรอ?”)

ดังนั้นเวลาหุ้นของบริษัทที่ดำเนินกิจการในจีนไปเปิดตัวในตลาดหุ้นต่างชาติ นักลงทุนก็จะตื่นเต้น และแห่ซื้อจนราคาพุ่งพรวด

กรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับหุ้นของ Alibaba ที่ไปเปิดตัวในตลาดที่อเมริกา และหุ้น Tencent ที่ไปเปิดตัวที่ตลาดฮ่องกง

แต่…หุ้นบริษัทน้ำแร่นี่น่าสนใจขนาดนั้นเลยหรือ?

3.

บริบทตอนนี้ ต้องบอกว่านักลงทุนไม่มีอะไรจะลงทุนกัน โลกเจอโควิด-19 มาครึ่งปี สถานการณ์ต่างๆ ไม่แน่นอน บรรดาสตาร์ทอัพที่วางแผนจะเข้าตลาดหุ้นก็ต้องพับแผนกันหมด เพราะเข้าไปตอนนี้น่าจะ “เละ”

ช่วงนี้ บรรยากาศการลงทุนกลับมาดีขึ้น (ตลาดอเมริกาดัชนีสูงกว่าตอนต้นปีอีก)

นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นในหุ้นอีกครั้ง (สังเกตได้จากราคาทองเริ่มพลิกกลับ)

แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ้นอะไรจะเปิดตัวตอนนี้จะเวิร์ค ต้องเป็นตัวที่ดู “มีอนาคต” ในยุค New Normal เท่านั้น

เพราะฉะนั้น… หุ้นอะไรจะน่าซื้อไปกว่าหุ้นของ ‘สินค้าจำเป็น’ ในดินแดนที่ประชากรมากที่สุดในโลกล่ะ?

4.

ปกติหุ้นอุตสาหกรรมกลุ่มนี้จะเข้าตลาดจีนหมด ต่างชาติซื้อไม่สะดวก แต่พอหลุดมาเข้าตลาดฮ่องกงเรียกได้ว่าสนุกสนานกันเลย เพราะหุ้นสินค้าทำนองนี้ในตลาดจีนเป็น ‘แรร์ไอเท็ม’ คนก็เลยแห่กันไปซื้อ

ถ้าจะมองให้ลึกกว่านั้น นักลงทุนมองว่าคนจีนจะหันมากินน้ำแร่กันมากขึ้น เนื่องจากจีนรวยวันรวยคืน ดังนั้นคนก็มีแนวโน้มจะหันมา ‘ลงทุนด้านสุขภาพ’ กันมากขึ้น

บริษัทขายน้ำแร่ระดับท็อปอย่าง Nongfu Spring ก็ดูจะมีอนาคตที่ไปได้สวย หรือเป็นหุ้นที่มีอนาคตที่ดีนั่นเอง

เนื่องจากบริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทใหญ่ยักษ์ เจ้าของบริษัทนั้นเดิมถือหุ้นอยู่ 85% ดังนั้นการที่ราคาหุ้นบริษัทพุ่งพรวดจึงให้ผลที่รุนแรงมาก และส่งให้เศรษฐีโนเนมกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับท็อปของจีนไปชั่วข้ามคืน

แต่ก็นั่นแหละ อันดับของคนรวยนั้นเปลี่ยนไปตามราคาหุ้นของบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ และราคาหุ้นก็ผันผวนตลอดเวลา

ดังนั้น คงต้องดูกันไปยาวๆ ว่า ผ่านไปสัก 1 ปีหลังจากนี้ Zhong Shanshan จะยังยืนอยู่ใน Top 5 หรือกระทั่ง Top 10 ของคนรวยในจีนได้หรือไม่

อ้างอิง:

• Bloomberg. https://bloom.bg/3k7EYwN
• Forbes. https://bit.ly/2FlDr7j
• SCMP. https://bit.ly/3bMg6I2