5 Min

รู้จัก Chem Sex วังวนยาเสพติด-เพศรส และทางออกจากวังวน

5 Min
5270 Views
09 Aug 2020

เมื่อความเหงาและความกดดันในสังคมพาชีวิตคนเข้าสู่วังวนของยาเสพติดและเพศรสพร้อมๆ กัน

Brandthink ขอชวนคุณมารู้จัก Chem sex หรือ Chemical sex ที่หมายถึงการใช้ยาเสพติดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆ ของสังคมเกย์ (Gay men) เพื่อปลดปล่อยความต้องการส่วนลึกในจิตใจ

ยาไอซ์ GHB เคตามีน และป๊อบเปอร์ คือชื่อสารเสพติดกล่อมประสาทที่ใช้ในกิจกรรมเซ็กซ์เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกให้เพิ่มทบทวี ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกล่องลอยไปในอากาศ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และชีวิตอย่างรุนแรงเช่นกัน

Krub BKK ซาวน่าเกย์ที่หลายคนมองว่าเป็นพื้นที่สีเทา เต็มไปด้วยเรื่องเพศ แต่ในมุมหนึ่งคือพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการบำบัดการติดยาได้อย่างเข้าใจ

อาร์ม-อัครเษรต เชวงชินวงศ์ เจ้าของซาวน่า Krub BKK ย่านพระโขนงเปิดพื้นที่ให้คำปรึกษากับผู้ที่อยากเลิกวิถี Chem Sex จากประสบการณ์และความเข้าใจที่เขาได้ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับแพทย์และนักจิตวิทยาด้านยาเสพติด

“เกย์ก็จะใช้กันเยอะ ด้วยเรื่องราวในใจ ด้วยเรื่อง sense of belonging ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เรื่องความไม่อายที่จะเป็นเกย์ มันเป็นเรื่องของจิตลึกๆ ของเกย์ที่จะไปปลดปล่อยเมื่อตอนใช้ยา” 

(สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563)

Chem Sex เริ่มต้นจากไหน?

การใช้ยาเสพติดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงดิสโก้ ปี 70-80 แต่ด้วยเคมีขอยา มันไปถูกจริตกับไลฟ์สไตล์ของเกย์เข้าพอดี ความจริงเพศอื่นๆ ก็มีใช้เหมือนกัน

ถูกจริตเกย์ยังไงคะ?

การใช้ยามันกระตุ้นพวกจิตใต้สำนึกต่างๆ ของเกย์ มันทำให้เราหายจากความกลัว ความโดดเดี่ยว รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่ง มันทำให้เรารู้สึกเหมือนมีคนที่ยอมรับเรา เราไม่อายที่จะเป็นเกย์ ในตอนนั้นเราลืมทุกอย่าง การใช้ยาเหมือนมันมาตอบโจทย์ความไม่มั่นคงในใจ

ถ้ามองดูลึกๆ ในผู้ใช้ยาเกือบทุกรายเนี่ยจะมีปัญหาทางสภาพจิต หรือมีปัญหาในวัยเด็กอยู่แล้ว เรื่องการไม่ถูกยอมรับจากคนในครอบครัว เรื่องสังคม มันเป็นปัญหาที่ซ้อนปัญหาเข้าไปอีก

มีคนที่ติดเยอะไหม?

เราอ้างอิงการศึกษาของอังกฤษนะครับ ปี 2019 พบว่า 54% ตอบว่าเคยเสพยาเสพติดระหว่างมีเพศสัมพันธ์หรือตอนปาร์ตี้ ก็คือเกินครึ่ง

ส่วนในไทยเราไม่แน่ใจว่ามีการศึกษาเก็บข้อมูลไหม แต่ถ้าใครใช้ Dating App เราจะเห็นเลยมันจะมีสัญลักษณ์สื่อกัน เช่น เกล็ดหิมะ เข็มฉีดยา รูปเครื่องบิน เพื่อให้รู้กันว่าคนนี้มีการใช้ยานะ รับได้ไหม

มันต่างกับการมีเซ็กซ์ตามปกติยังไงคะ

ต่างครับ ต่างกันเยอะมากๆ ด้วยสารเคมีที่อยู่ในตัวยาและสารเคมีในสมอง มันเข้าไปกระตุ้นโดพามีน ซึ่งเป็นสารสื่อความสุขในสมองให้แตกตัวออกมา สมมติปกติเราเลเวล 1 สารเคมีจะทำให้เรารู้สึกสุขมากขึ้นกว่าเดิม 1,250 เท่า แล้วเราเสพความสุขนั้น

คนที่เคยเสพติดความสุขนั้นจะสามารถกลับไปมีเซ็กซ์ตามปกติได้อย่างมีความสุขไหม?

มันต้องใช้เวลา แต่มันทำได้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าเราผ่านอะไรมา ต้องเข้าใจว่าความรู้สึกตอนที่เราใช้ยา มัน “ไม่จริง” ต้องเข้าใจให้ได้ว่า 10 ปีที่เราใช้ยามันเป็นช่วงที่ไม่ปกติ เราไม่สามารถเอาตอนนี้ไปเทียบได้

ความรู้สึกไม่มั่นใจพวกนี้แหละที่ทำให้หลายคนไม่อยากเลิก เพราะกังวลว่าจะกลับไปมีเซ็กซ์แบบปกติได้ไหม จะมีความสุขได้จริงๆ ไหม แต่สิ่งสำคัญคือคนเลิกต้องเข้าใจ

 

การใช้ยาเอฟเฟ็กกับชีวิตยังไง

หลายคนที่ใช้มองว่ามันจะไม่มีปัญหา การใช้ยาเป็นเรื่องสนุก แล้วก็เป็นเรื่องส่วนตัวเพื่อความบันเทิงเพื่อความสบายใจ แต่มีเอฟเฟ็กซ์แน่นอน เพราะว่าทุกคนที่ใช้เนี่ย จะมีช่วงของขั้นตอนการถอนที่เขาเรียกว่า “ช่วงดาวน์” มันจะผ่านกระบวนการที่รู้สึกแย่ รู้สึกนอยด์ มันเป็นปัญหา แต่หลายคนจะไม่มองเห็นปัญหาจนกว่าจะมีปัญหาเรื่องอื่นๆ ตามมา วันหนึ่งปัญหามากองข้างตรงหน้าแล้ว เราถึงรู้ตัว เงินขาดมือ เริ่มกระทบการงาน ความมั่นคงของอารณ์ มีปัญหากับคนรอบข้าง ถ้าหากเรื่องดำเนินถึงกฎหมายเมื่อไรผลกระทบมันจะยิ่งใหญ่มาก นั่นคือสิ่งที่เราเองผ่านมาแล้ว จากที่เคยทำงานในบริษัทข้ามชาติหายวับไปกับตาเลย

ทำไมคุณถึงเริ่มใช้ยา

มันเป็นวันธรรมดา ง่ายๆ โง่ๆ เลย ไปหาเพื่อนที่หอเพราะว่าจะไปเที่ยวกันต่อ ก็เห็นมันกับแฟนวางอุปกรณ์ไว้ เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าคืออะไร ให้เราลอง ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ามันปกตินะ ทั้งเพื่อนทั้งแฟนก็ดูปกติ ก็ลอง

ความน่ากลัวของยามันคือแบบนี้ คนติดมันไม่เหมือนในทีวี ตอนแรกมันไม่เห็นจะหน้าซูบผอม น่าเกลียดฟันหลอ อะไรแบบนั้นเลย เราเลยคิดว่าโอเค ใช้อยู่ 12 ปี ตลอด 4 ปีหลังคือใช้ทุกวันเลยนะ ใช้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพราะถ้าไม่ใช้มันจะดาวน์ ไม่มั่นใจในตัวเองเลย เราหยุดไม่ได้ ถ้าหยุดยาก็ทำงานไม่ได้ แต่ถ้าใช้ต่อไปมันเห็นผลกระทบทางกายภาพแล้วเราผอม ผิวแห้ง ฟันเริ่มผุ

แล้วทำไมตอนนั้นคุณอาร์มถึงอยากเลิก

มันเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ความจริงเราพยายามเลิกมา 4-5 ครั้ง เพราะทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ดีกับร่างกาย แต่มันเลิกได้ไม่ขาด พอดีจุดเปลี่ยนคือช่วงที่คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ทำโปรเจคที่ทำงานพัง แล้วเราขับรถไปต่างจังหวัดก็เจอตรวจ เลยรู้ตัวจริงๆ ว่า เออ มันต้องจบจริง ๆ แล้ว

ตัวโครงการบำบัดที่ทำในซาวน่ามีที่มายังไง

หลังจากที่เราใช้ยามานานแล้วเรารอดมาได้ เรารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง อยากให้คนเห็นว่า เออ เรารอดมาได้นะ ถ้าไม่อยากไปบำบัดที่โรงพยาบาล อายที่จะคุยกับหมอ ก็มาหาเราได้ มาคุยกัน

เราเข้าใจนะว่าหลายๆ คนที่ติดไม่เชื่อหมอกับพยาบาล เขารู้สึกว่าหมอไม่เคยผ่านเรื่องนี้มาจะเข้าใจอะไร แต่เราคือคนที่พูดภาษาเดียวกับเขาผ่านปัญหาเดียวกับเขา เราไม่ตีตราเขาว่าเป็นไอ้ขี้ยา เขาจะเปิดใจให้เรามากกว่าเพราะเราผ่านมาแล้ว เราเลยอยากเปิดพื้นที่ให้คนเข้ามาคุยกับเราเป็นด่านแรก

วิธีการบำบัดเหมือนคนติดยาทั่วไปรึเปล่า?

คล้ายๆ แต่ของเราไม่ได้เป็นโรงพยาบาล สิ่งที่เราให้คือมิตรภาพระหว่างเรากับคนที่มาปรึกษาที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนเพื่อนคุยกัน และเพื่อนคนนี้เคยผ่านตรงนั้นมาก่อน ถ้าเขาอยากเลิกจริงๆ อยากรักษา เราก็จะช่วยแนะนำเขาให้ไปสาธารณสุข หรืออาจจะเป็นโรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่ปกติก็จะมีคุณหมอมาที่โครงการอยู่แล้วจะเป็นนักจิตวิทยาเรื่องการเลิกยาเสพติดโดยเฉพาะ

 

การเลิกใช้เวลาเท่าไร

ถ้าครบกระบวนการจะประมาณ 4 เดือนถึง 1 ปี การเลิกยาจะมีทั้งหมด 4 ขั้น

1) การถอนยา 7-10 วันแรก คือช่วงลงแดงนั่นแหละ อาการก็แล้วแต่คนขึ้นอยู่กับปริมาณ และระยะเวลาที่ใช้ ความถี่ แล้วก็เรื่องของสารเคมีในสมอง อายุ ซึ่งมันสัมพันธ์กันหมด บางคนก็อาจจะสบายหน่อย เลิกได้ง่าย แต่นี่คือช่วงที่หนักที่สุด

2) Honey moon period ช่วง 10 วัน – 3 สัปดาห์แรก จะเริ่มรู้สึกดีกับตัวเองแล้ว รู้สึกอยากจะกลับเข้าสังคมแล้ว ช่วงนี้ถ้าได้รับการซัพพอร์ตจากคนรอบข้างก็จะผ่านช่วงนี้ไปได้ง่ายขึ้น

3) 6-20 สัปดาห์ สำหรับเราคิดว่าช่วงนี้ผ่านไปได้ยากที่สุดจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการต่อสู้ เริ่มไปใช้ชีวิตปกติเจอกับความเครียด เป็นจุดสำคัญมากๆ ว่าเราจะกลับไปใช้ยาหรือไม่

4) หลัง 20 สัปดาห์จะเริ่มเป็นระยะปรับตัว เป็นช่วงสุดท้ายที่ร่างกายจะเริ่มสดใสขึ้น กำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือเห็นเป้าหมายว่าเราต้องเลิกให้ได้ ทำให้ได้จริง ๆ

ในฐานะที่คุณอาร์มเคยผ่านช่วงนั้นมาก่อน จริงๆ มันยากไหม

ยาก (ตอบทันที) แต่มันไม่เกินความสามารถของเราหรอก จากใจจริงเลยนะ สอบเอนทรานซ์ยังยากกว่าเลย ตอนนั้นเราทุ่มเทมากพอมองกลับมาการเลิกยามันยังง่ายกว่าการสอบเลย ช่วง 7-10 วันแรก นี่ยากจริงๆ แต่ว่าหลังจากนั้น มันจะเริ่มโอเค แต่การเลิกยามันเหมือนเลิกกับคนรัก คือเราจะไม่มีวันลืมความรู้สึกสุขตอนนั้นหรอก แต่มันก็จะผ่านไป

ถ้าอยากเข้าโครงการของคุณต้องทำยังไง

มาได้ที่ซาวน่า Krub BKK เลย หรือจะ DM มาถามในทวิตเตอร์ (@Nakrobrakkarny1) ก็ได้ถ้าไม่อยากมา จริงๆ เพศอื่นก็ปรึกษาได้นะ แต่เราอาจจะเข้าใจความต้องการ ความไม่มั่นใจลึกๆ ของเกย์ได้มากกว่า เราพยายามสร้างพื้นที่ซาวน่าให้มันมีความหมายกับทุกคน ไม่ใช่แค่มาสนุกอย่างที่คนอื่นเข้าใจ

เมื่อความเหงา ความกดดัน ผลักให้คนเข้าสู่วังวนของยาเสพติด มันอาจเป็นความสนุกและสุขแบบที่ไม่อาจลืม แต่ก็มีผลกระทบต่อชีวิตมากมาย โครงการบำบัดในซาวน่า Krub BKK เป็นพื้นที่ให้คนอยากเลิกได้เข้ามาพูดคุยปรึกษาก่อน แต่สิ่งสำคัญคือใจของผู้ติดเอง

นอกเหนือจากการบำบัด Chem sex แล้ว ในซาวน่ายังมีโครงการบำบัดผู้ติดเชื้อ HIV เป็นจุดรับยา Prep ได้ โดยการติดต่อกับกองโรคเอดส์ กทม. และมีการตรวจควบคู่กับหลายองค์กร ทั้งรัฐและเอกชน

ขอบคุณเรื่องราวจากคุณอาร์ม-อัครเษรต เชวงชินวงศ์ เจ้าของซาวน่า Krub BKK กับเรื่องราวการบำบัดผู้เสพติด Chemsex และการบำบัด

(ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับซาวน่าเกย์ พื้นที่เพื่อการเปิดเผยตัวตนได้ในบทความ – https://bit.ly/2VJlftR)