“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน” วลีนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป เพราะในเวลาเดียวกัน มนุษย์เราสามารถรู้สึกรักได้มากกว่าหนึ่งคน
พูดง่ายๆ คือมนุษย์สามารถรักซ้อนได้ (แต่ไม่ได้บอกว่าคบซ้อนได้นะ) แม้ดูเหมือนแนวคิดนี้จะถูกต่อต้านโดยคนส่วนใหญ่ แต่พฤติกรรมมีคนรักพร้อมกันหลายคน หรือ ‘Polyamory (พอล-ลี-′อา-มะ-รี)’ ดูจะเป็นเรื่องที่ปะปนอยู่ในทุกสังคมมนุษย์ ไม่ใช่การมีชู้ หรือ ‘Open-Relationship‘ ด้วยนะ
อธิบายให้ชัดขึ้น Polyamory คือความสัมพันธ์ที่มีคนรักมากกว่าสองคนในเวลาเดียวกัน โดยที่ทุกฝ่ายต่างรับรู้และยอมรับสถานะความสัมพันธ์ ในที่นี้รวมไปถึงเรื่องเซ็กส์ด้วย
Dr.Elizabeth Sheff ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์แบบ Polyamory ได้อธิบายว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะไม่มีการหึงหวง ไม่ถือว่ามีใครนอกใจ เพราะต่างรับรู้กันทุกฝ่าย ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ได้หมายความเพียงว่า สามีจะมีภรรยาสองคนอย่างสงบเท่านั้น แต่มันกว้างไปถึงว่าภรรยาทั้งสองก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ หรือแม้กระทั่งทุกฝ่ายตกลงมีเซ็กส์พร้อมกันได้ หากอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ นั่นเป็นเรื่องปกติ Polyamory ไม่ได้เหมาะกับทุกสังคม และไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับกันได้ง่าย
รสนิยมความรักหรือรสนิยมเซ็กส์?
‘เซ็กส์’ มักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ Dr.Eli เผยว่า การเติมเต็มความต้องการในเรื่องเซ็กส์ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยของความสัมพันธ์แบบ Polyamory โดยเธอคิดเห็นว่า เซ็กส์ควรเป็นสิ่งที่เราสนุกกับมันได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องมีคู่นอนไปทั่ว แต่ Polyamory คุณสามารถทำข้อตกลงกับคนรัก (ทุกคน) ในเรื่องเซ็กส์ได้ มันเป็นรสนิยมของใครของมัน ซึ่งสามารถนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีในด้านอื่น
แต่ไม่ใช่พูดถึง Polyamory ก็จะจ้องไฮไลท์ไปที่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียวนะ เพราะถึงแม้จะเป็นคู่ผัวเดียวเมียเดียวก็ยังต้องมีการคุยกันเรื่องเซ็กส์เลย แม้เซ็กส์จะสำคัญ แต่ก็เป็นแค่หนึ่งปัจจัยเท่านั้น ความรัก มิตรภาพ และความเข้าใจ คือองค์ประกอบหลักที่ทำให้ความสัมพันธ์แบบ Polyamory ดำเนินไปอย่างราบรื่น
แม้ Polyamory จะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมส่วนใหญ่ แต่ในบางสังคมมีการยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษรและสามารถทำได้อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ ตัวกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์นี้จึงไม่ใช่เจ้าของความรักซะทีเดียว หากแต่เป็นกรอบทางสังคม วัฒนธรรม จารีต และกฎหมาย ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับประเทศที่พัฒนาแล้วยังหรือประเทศยังไม่พัฒนา
ในปี 2017 มีงานวิจัยเกี่ยวกับ Polyamory ทำการสำรวจคนโสดจำนวน 8,700 คนในสหรัฐอเมริกา พบคำตอบว่าบางช่วงในชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบรักเดียวใจเดียว หนำซ้ำผลสำรวจในปี 2014 ยังชี้ชัดว่า 4%-5% ของชาวสหรัฐมีความสัมพันธ์แบบ Polyamory นับเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
อันที่จริงในหลายบทความเมื่อมีการพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์มากผัวมากเมีย มักจะมีการหยิบยกพฤติกรรมของสัตว์ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มสัตว์ที่มีตัวผู้เป็นใหญ่ จ่าฝูงที่มีฮาเร็ม หรือแม้แต่กลุ่มสัตว์ที่มีตัวเมียตัวเดียวแต่ตัวผู้หลายตัว และก็ยังมีกลุ่มสัตว์ที่มีคู่ครองตัวเดียวไปตลอดชีวิต จะด้วยเหตุผลในการขยายเผ่าพันธุ์หรือสัญชาตญาณก็ตาม แต่ก็ชัดเจนว่าแม้ในสัตว์เองก็ยังมีรูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลาย
ทำไม Polyamory จึงแตกต่างจาก Open-Relationship
ดูเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์แบบเปิดเหมือนกัน แต่ Polyamory นั้นมีการผูกมัดควบรวมกันทั้งเซ็กส์ มิตรภาพ และความรัก ทุกฝ่ายมีบทบาทในชีวิตซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผย ต่างจาก Open-Relationship ที่ไม่มีการผูกมัด ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฝ่ายใดรับรู้หรือทำความเข้าใจ ต่างฝ่ายต่างสละเรือได้ตลอดเวลา มนุษย์นี่ช่างซับซ้อนจริงๆ
ดังนั้นคำว่า ‘รักเดียวใจเดียว‘ (Monogamy) จึงเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของความสัมพันธ์ มากกว่าจะเป็นต้นแบบของความสัมพันธ์ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยึดมั่นในรักเดียวใจเดียว แม้ว่าจะเป็นรูปแบบความรักในอุดมคติก็ตาม แน่นอนว่าความสัมพันธ์ยังมีอีกหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคนทั้งสอง หรือมากกว่าสองจะตกลงกันอย่างไร ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าความรักเป็นเรื่องของรสนิยมน่าจะให้ความหมายได้ครอบคลุมมากกว่า
ทั้งนี้เราไม่ได้จะชี้นำว่าพฤติกรรมรักหลายคนพร้อมกันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เราต้องการบอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ในโลกมนุษย์ที่มีอยู่หลายรูปแบบ เพื่อนำไปสู่การเคารพในรสนิยมและตัวตนของผู้อื่น
+0