“บ้านหอมฟืน” ร้านก๊วยเตี๋ยวย่านจตุโชติ ในคอนเซปสเปเชี่ยลเตี๋ยว ความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
จากชื่อร้านบ้านหอมฟืน ก็พอจะเดาได้แล้วใช่ไหมคะ ว่าทางร้านใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการต้มน้ำซุป ตุ๋นเนื้อและวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งจะทำให้น้ำซุป เนื้อตุ๋น และเครื่องในมีกลิ่นเฉพาะตัว จากที่สอบถามเชฟ เขาเล่าว่า เมื่อตอนเด็กๆ เขาชอบทานก๊วยเตี๋ยวมาก มีอยู่วันนึง ไปเจอร้านก๊วยเตี๋ยวเรือแท้ๆ แบบที่ร้านพายเรือมาขายเลย หลังจากมีโอกาสได้ทาน ก็ติดใจกลิ่นและความอร่อยของก๊วยเตี๋ยวร้านนี้ ไม่ว่าเขาจะไปกินร้านไหน เขาก็ไม่เคยเจอกลิ่นเฉพาะแบบนี้เลย จนได้ความมาว่า ร้านนี้ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงในการทำก๊วยเตี๋ยว เลยได้แรงบันดาลใจในการทำร้านบ้านหอมฟืน สั่งเตาฟืนมาโดยเฉพาะ
นอกจากกลิ่นจากการใช้เตาฟืนที่เป็นเอกลักษณ์ของก๊วยเตี๋ยวร้านบ้านหอมฟืนแล้ว ก็มีความตั้งใจในการคัดสรรวัตถุดิบแต่ละอย่าง เริ่มจากน้ำซุปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปรุงมาอย่างดี ไม่ใช่น้ำใส ไม่ใช่น้ำข้น รสชาติใกล้ก๊วยเตี๋ยวเรือ แต่เป็นน้ำซุปสูตรลับของทางร้าน เข้มข้น ใช้วัตถุดิบนำเข้า รวมไปถึงวัตถุดิบหมู เนื้อส่วนต่างๆ ไส้ เอ็น เครื่องในต่างๆ ที่ทางร้านพิถีพิถันในการตุ๋นนานกว่า 4-6 ชั่วโมง เครื่องในบางชนิดก็ใช้เวลาตุ๋นมากกว่านั้น ซึ่งเชฟตั้งใจเลือกส่วนที่นุ่มที่สุดและดีที่สุดมาไว้ในชาม
เครื่องปรุงต่างๆเอง ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่เสริมความอร่อย ซึ่งทางร้านเองก็ใส่ใจในรายละเอียดมากในทุกส่วน อย่างพริกก็เป็นพริกคั่วเอง ใช้เป็นพริกหัวเรือโดยเฉพาะ ที่มีความเผ็ดและความหอมเฉพาะตัว น้ำส้มพริกดองก็ใช้เป็นพริกขี้หนูสวน มาคั่วในกระทะให้มีกลิ่นหอม แล้วดองกับน้ำส้มสายชูแท้ กระเทียมเจียวที่โรยอยู่บนก๊วยเตี๋ยวหอมโชยมากๆ เรียกว่าร้านบ้านหอมฟืน เน้นทั้งวัตถุดิบ น้ำซุปที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงเครื่องปรุง ให้เป็นก๊วยเตี๋ยวที่รสชาติไม่เหมือนร้านไหน มีเอกลักษณ์มามัดใจลูกค้า
ทางเชฟเล่าว่า เขาเริ่มจากทำร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิมา เลยค่อนข้างหลงใหลเป็นพิเศษในการค้นหาวัตถุดิบคุณภาพอยู่เสมอ ลองปรับเปลี่ยนสูตรอาหารต่างๆเรื่อยๆ รวมถึงคิดเมนูใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการความอร่อยที่ลูกค้าจะได้รับประทานให้มากที่สุด
ความตั้งใจของเชฟคือ อยากอัพเกรดมูลค่าก๊วยเตี๋ยวไทยให้คุณภาพพรีเมี่ยม ในราคาเข้าถึงได้
ก๊วยเตี๋ยวเนื้อและก๊วยเตี๋ยวหมูที่เราได้รับประทาน ราคาเพียงชามละ 29 บาทเท่านั้น ให้มาในปริมาณที่พอดีเลย อย่างเราเองหลังจากทานสองชาม คืออิ่มท้องมากๆ รวมถึงทางเชฟเสิร์ฟรวมเนื้อและเครื่องในลวกจิ้มมาให้ลองด้วย หลังจากรับประทานทุกเมนูและได้พูดคุยถึงเรื่องราวก่อนจะได้มาเป็นเมนูบนโต๊ะ ก็รับรู้ได้ถึงความพิถีพิถันในการเลือกใช้และปรุงวัตถุดิบมาอย่างดี และความตั้งใจของเชฟจริงๆ