ทุกเสียงมีความสำคัญ แต่บางครั้งอาจถูกเมินเฉย

63 Views
28 May 2023

ถ้าเราพูดถึงในปัจจุบัน การเมือง เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรใส่ใจเพราะมันเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องปกป้อง นับตลาดเวลาที่ผ่านมาเราเห็นได้กว่า การเมืองไทยมีความขัดแย้งมานานหลายปี ซึ่งเกิดจากผู้นำขาดความรู้ความพกพร่องและใช้อำนาจเกินเหตุ ซึ่งทำให้ประชาชนนั้นเกิดความทุกข์ยาก ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ สังคม ภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นต้น ซึ่งเราเห็นได้กว่าการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถความเข้าใจกันได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะผมเชื่อว่าประชากรนับ50ล้าน60ล้านกว่าคน มีความคิดมุมมองที่แตกต่าง แต่ในปัจจุบันที่กำลังเป็นปัญหาหรือเป็นประเด็นสำคัญคือเสียงที่ไร้ซึ่งความหมาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความไม่เป็นธรรม รัฐบาลกับมองเสียงประชาชนพียงเศษดิน และกับใช้อำานาจในตำแหน่งมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งอาจจะมีบุคคลที่มีอำนาจใหญ่อยู่เบื้องหลังก็อาจเป็นได้ และด้วยโลกที่ทันสมัยสื่อโซเซียลเช่นเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ที่เป็นตัวบ่งบอกได้กว่าเสียงประชาชนไม่มีความหมาย ร่วมไปถึงระบบการศึกษา กระทรวงต่างๆ ที่อ่อนลงทุกวัน หลักสูตรต่างๆการศึกษา การขาดโอกาสในการศึกษาเนื่องด้วยทุนทรัพย์ของผู้ปกครอง ซึ่งก็มาจากระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ขาดดุลลงซึ่งก็มาจากผู้นำที่บริหารประเทศ ทำให้ประชาชนอดยากปากท้องที่ไร้คุณภาพ มาถึงปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะทำให้ประเทศไม่เหมือนเดิม แต่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง กับรัฐประหารที่กำลังกับมา ประชาชนนับ14ล้านกว่าที่มุ่งมั่นและตั้งตาเพื่อให้ประเทศเปลี่ยนไปและก้าวหน้า กลับอุปสรรคมากมายที่กว้างกั้น ประชาชน เด็กและเยาวชนกับได้รับที่ไม่เป็นธรรม แล้วทำไมล่ะ ประชาชนถึงต้องใส่ใจเรื่องนี้ นั้นเป็นคำถามหลายคนน่าจะสงสัย เพราะได้ชื่อว่าประเทศไทย ประชาธิปไตยนั้นเป็นตัวบ่งชี้ว่าประชาชนมีสิทธิที่จะเลือกและตัดสินใจ เพราะประชาธิไตย หมายความว่า ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ เพราะฉะนั้นประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกที่จะเปลี่ยน แล้วทำไมละบุคคลเหล่านั้นถึงมีสิทธิ์มากกว่าประชาชน ทั้งๆที่ว่าภาษีประชาชนก็เป็นส่วนของเงินแต่ละเดือนของเขา แต่เขากับมองข้ามหน้าข้ามตา คิดอะไรตัดสินด้วยตนเองโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มารับทุกข์กับเราด้วย และยังมองอีกกว่าเด็กรุ่นใหม่จะมีความรู้อะไรมาบริหารมาเปลี่ยนแปลง เพราะเด็กกับต่อว่าก็มองกว่าเด็กสมัยนี้ก้าวร้าวไม่ให้ความเคราพ แล้วตัวผู้ใหญ่ละ ทำตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็นหรือไม่ และอยากให้มองถึงในอนาคตข้างหน้ากว่าเด็กที่เกิดมาจะคิดและมองบุคคลเหล่านี้กว่าอย่างไร หรือจะถูกจดจำในประวัติศาสตร์ว่าบุคคลเหล่านี้ คือตัวถ่วงความเจริญในอดีต และลูกหลานของพวกเขาก็คงถูกมองในทิศทางไหนกันละ

ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านทั้งหลายควรเคราพเสียงมติของประชาธิปไตยซึ่งประชาชนเป็นผู้เลือก อย่าเอาข้ออ้างมากมายและห่วงในอำนาจมาเป็นตัวตัดสินของตนเอง เพื่อประเทศชาติจะได้เดินหน้าต่อหากพวกท่านเหล่านั้นมีความบริสุทธโปร่งใส่ยุติธรรมและต้องการให้ประเทศเดินไปต่อ ก็ขอให้ท่านปล่อยวางจากคิดส่วนตัว และเมื่ิอถึงเวลานั้นประเทศชาติก็ได้เจริญหและก้าวหน้าต่อไป