2 Min

ทำความรู้จัก Hubris Syndrome เมื่อคนมีอำนาจมากเกินไป อาจกลายเป็น ‘วายร้าย’ แบบไม่รู้ตัว

2 Min
1055 Views
30 Jul 2020

พอพูดถึงผู้นำที่ ‘โอหังและบ้าอำนาจ’ เชื่อว่าทุกท่านน่าจะมีบุคคลในใจอยู่บ้าง

บุคคลที่เรารู้สึกว่า มารยาทไม่ดีนัก พูดจาไม่เข้าหูประชาชน บางครั้งก็มีคำพูดดูถูก เหยียดหยาม ซึ่งไม่ควรจะออกมาจากปากของคนที่เป็นผู้นำประเทศสักเท่าไหร่

ใช่ครับ เรากำลังพูดถึง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 จากฝั่งริพับลิกันพรรคฝั่งขวาของเมืองลุงแซม

‘ไม่ว่าจะเป็นการพูดในชีวิตจริง หรือการพิมพ์เนื้อหาในโลกออนไลน์’ หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามกับแนวคิดของผู้ชายคนนี้อยู่เสมอ

แต่ผู้นำต้องบ้าอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ?

พวกเขาบ้าอำนาจอยู่แล้ว หรือเพิ่งมาบ้าอำนาจทีหลัง?

วันนี้เราจะชวนมารู้จักกับอาการ Hubris Syndrome เมื่ออำนาจสามารถเปลี่ยนแปลงคนๆ หนึ่งได้มากกว่าที่ใครหลายคนคิด

ถึงแม้คำนี้จะไม่ได้เป็นชื่อโรคในทางการแพทย์ แต่อาการดังกล่าวก็มักจะทำให้คนที่มีอำนาจ โอหัง เห็นอกเห็นใจคนอื่นน้อยลง และเสพติดการใช้อำนาจมากยิ่งขึ้น

เชื่อไหมครับว่า อาการ Hubris Syndrome อาจส่งผลถึงการทำงานของสมองหรือระบบประสาท ทำให้บรรดาผู้นำยิ่งบ้าอำนาจมากยิ่งขึ้น

เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์ นักปรัชญาท่านหนึ่งของอังกฤษ เคยกล่าวถึงคำว่า ‘ความเป็นพิษของการมีอำนาจ’ (intoxication of power) ว่ามันเป็นรูปแบบของความบ้า (Madness) ชนิดหนึ่ง เมื่อผู้นำมีอำนาจ และความมั่นใจ มักจะทำให้พวกเขาฟังคนอื่นน้อยลง ให้ค่าความคิดของผู้อื่นน้อยลง และอาจถึงขั้นหลงลืมตรรกะความเป็นจริง

การศึกษาวิจัยของ Lord David Owen และ Jonathan Davidson แพทย์และนักจิตวิทยาในยุค 70s ช่วยให้เราพอทราบว่า ผู้นำระดับโลกหลายคนแสดงถึงอาการทำนองนี้

เช่น Roosevelts, Woodrow Wilson, John Kennedy, Lyndon Johnson, Richard Nixon และ George W. Bush ซึ่งคนที่ชัดเจนในเรื่องนี้ที่สุดก็คือ George W. Bush นั่นเอง ส่วนรายอื่นดูเหมือนว่าจะมีอาการทางจิตอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วย

ไม่ใช่แค่เรื่องของการเมืองเท่านั้น แต่ผู้นำในด้านธุรกิจก็สามารถถูกครอบงำด้วยความคิดแบบนี้ได้เช่นกัน เมื่อตำแหน่งสูงขึ้นไป อีโก้และความมั่นใจก็จะทะยานขึ้นไปด้วย

เมื่อสิ่งเหล่านั้นมีดีกรีสูงมาก พวกเขาก็จะสื่อสารกับคนทำงาน และเข้าใจรูปแบบการทำงานทั่วไปได้ยากยิ่งขึ้น

ปกติแล้ว มนุษย์เราจะมีความเห็นอกเห็นใจ (empathize) ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่เมื่อคุณมีอำนาจมากขึ้น ความรู้สึกนี้ก็จะลดน้อยลงไปด้วย ทำให้ในบางครั้งเรามั่นใจมากเกินไป ‘จนไม่ฟัง ไม่สนใจ ไม่เข้าใจ ไม่เห็นอกเห็นใจ’ ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นทางธุรกิจ หรือการเมือง ‘Hubris Syndrome’ ก็สามารถสร้างความเสียหายกับทุกชนชั้นในองค์กรได้เกือบหมด

หากตอนนี้ใครอยู่ในตำแหน่งสูง ก็อยากให้ลองไถ่ถามตัวเองดูสักนิด ว่าเรากำลังโดนอำนาจครอบงำมากเกินไปหรือเปล่า?

เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นคนบ้าอำนาจแบบ โดนัลด์ ทรัมป์ หรือผู้นำที่ขี้โวยวาย จริงไหมครับ?

อ้างอิง: Idea for Leader. BEWARE OF HUBRIS SYNDROME! A LEADERSHIP PERSONALITY DISORDER. https://bit.ly/2XH7Kff

Daedalustrust. Hubris Syndrome. https://bit.ly/2Uj7UY7

Harvard Business Review. Ego Is the Enemy of Good Leadership. https://bit.ly/2AMGUth