3 Min

‘ตั๋วปารีส’ คืออะไร? ส่องขั้นตอน ‘ขอลี้ภัยการเมือง’ ในฝรั่งเศส

3 Min
11929 Views
26 Jul 2023

พรรคก้าวไกลเคยอภิปรายในสภาเรื่อง ‘ตั๋วช้าง’ ที่ตีแผ่การทุจริต การติดสินบน และระบบส่วยในแวดวงข้าราชการและกองทัพ 

ล่าสุด ศิลปินนักกิจกรรมทางการเมือง @headachestencil จึงทวีตอ้างอิง ‘รังสิมันต์ โรม’ สส.พรรคก้าวไกล เรื่อง ‘ตั๋วปารีส’ โดยกล่าวหาว่า รังสิมันต์คือหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมขบวนการต่างชาติเพื่อแทรกแซงการเมืองไทยด้วยการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ทั้งยังมีการช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในฝรั่งเศส ซึ่งพาดพิงถึงกิจกรรมที่รังสิมันต์และ @headachestencil เคยเข้าร่วมในอดีต

ช่วงเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 รังสิมันต์ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ก่อนจะเป็น สส. เขาเคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองมาก่อน และผู้ที่ติดตามเขามาก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดี เขาจึงมีโอกาสได้ไปร่วมงานกิจกรรมหรือสัมมนาต่างๆ ในหลายประเทศ โดยงานกิจกรรมซึ่งถูกอ้างถึง จัดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค. 2561 เป็นระยะเวลา 3 วัน

“ข้อมูลที่เปิดเผยออกมา มีระบุถึงเงินเบี้ยเลี้ยง 24 ยูโร/วัน รวมถึงที่พักรับรองระหว่างร่วมงาน พวกนี้เป็นการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ผู้จัดงานประเภทนี้มักจัดหาให้ผู้ร่วมงานเป็นปรกติอยู่แล้ว

“ที่กล่าวหาว่าผมรับเงินนายทุนมาแก้มาตรา 112 และต้องรีบชดใช้ ถามว่าในปี 61 มีใครจินตนาการออกบ้างว่ามาตรา 112 จะแก้ได้จริง หรือจะเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมขนาดนี้? เช่นนั้นแล้วมีนายทุนคนไหนจะยอมลงทุนกับผมให้มาทำเรื่องนี้ด้วยหรือ? ทุกวันนี้ผมยังต้องผ่อนรถผ่อนบ้าน และคงต้องผ่อนไปอีกหลายปี ถ้าผมได้รับเงินจากนายทุนมาคงไม่ต้องมีภาระการเงินแบบนี้

“การแก้มาตรา 112 เป็นนโยบายที่พรรคก้าวไกลแจ้งต่อ กกต. และใช้หาเสียงเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมา ที่เรายังยืนยันในนโยบายนี้เพราะมันคือสัญญาที่เราให้ไว้กับประชาชน ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด และการแก้มาตรา 112 ไม่ใช่การ ‘บ่อนทำลายชาติ’ (อย่างที่พยายามปั่นกันว่าผมรับเงินมาทำ) เลย แต่จะเป็นการช่วยให้ชาติไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขดำรงอยู่ในยุคสมัยใหม่ได้อย่างยั่งยืนด้วยซ้ำ”

รังสิมันต์ทิ้งท้ายว่า ‘ขอขอบคุณประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผู้แทนราษฎร’ และในฐานะนักการเมือง ตัวเขาเองก็พร้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ และขอสนับสนุนการใช้สิทธิของประชาชนในการตรวจสอบผู้ใช้อำนาจรัฐทั้งหลายต่อไป

ส่วนข้อกล่าวหาที่พาดพิงถึง ‘ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในฝรั่งเศส’ ไม่ได้มีการชี้แจงเพิ่มเติม แต่จากการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ พบว่าการยื่นขอสถานะ ‘ผู้ลี้ภัย’ ในฝรั่งเศส ยื่นได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) (ดูที่ https://tinyurl.com/4vewunsf) โดยมีการระบุว่า การขอลี้ภัยเป็นหนึ่งในกลไกการคุ้มครองระหว่างประเทศ (International Protection)

คุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอลี้ภัยในฝรั่งเศสได้ หลักๆ คือต้องเป็นผู้ที่หวาดกลัวว่าจะได้รับอันตรายร้ายแรงเมื่อกลับประเทศบ้านเกิดตัวเอง เพราะอาจจะได้รับการคุกคามด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อทางการเมือง หรือสถานะการเป็นสมาชิกองค์กรทางสังคมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง รวมถึงผู้หนีภัยสงคราม การกระทำโหดร้ายทารุณ และการปฏิบัติที่ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยหน่วยงานของประเทศฝรั่งเศสจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครมีคุณสมบัติเข้าข่ายผู้มีสิทธิลี้ภัยที่จะได้พำนักในฝรั่งเศสหรือประเทศที่ 3

อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2559 UNHCR Thailand ซึ่งเป็นสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลี้ภัยไปต่างประเทศของผู้ต้องหาคดี ม.112 และก่อนหน้านั้นในปี 2558 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.กระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามมาตรา 112 เคยเข้าพบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ติดตามตัวคนไทย 3 คนที่เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองในคดี ม.112 ได้แก่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, จรัล ดิษฐาอภิชัย, ศรัณย์ ฉุยฉาย (หรือ อั้ม เนโกะ) ซึ่งถึงขณะนี้ทั้งสามคนก็ยังได้รับอนุญาตให้พำนักในฝรั่งเศสเช่นเดิม

ขณะที่นโยบายให้ที่พักพิงผู้ลี้ภัยทางการเมืองล่าสุดของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ประกาศช่วงปี 2565-2566 ระบุว่า ชาวรัสเซียที่ไม่ต้องการไปรบในสงครามยูเครน เป็นหนึ่งในผู้มีคุณสมบัติที่จะขอลี้ภัยในฝรั่งเศสได้

อ้างอิง

+0
REPORT