ณ ปัจจุบันประเทศไทยใช้นโยบายการเงินอะไรในการจัดการปัญหาต่างๆในประเทศและการออกนโยบายต่างๆ ทำอย่างไร?
ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ในงาน Macro Holiday 2024 ณ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะอาจารย์ได้นำวิทยากรณ์ทางด้านเศรษฐกิจต่างๆมาให้ความรู้แก่นักศึกษา ไม่ว่าจะเป็น คุณทักษอร พรถาวร
ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ มาอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่และโครงสร้างต่างๆทาง
เศรษฐกิจ เป็นต้น จากคำถามนี้เรื่องของการจัดการปัญหาต่างๆโดยใช้นโยบายการเงินของประเทศไทยคืออะไร
และผลที่ออกมาเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่คนรู้จักเกี่ยวกับการทำงานของแบงค์ชาติรู้ว่าแบงค์ชาติหรือธนาคารกลาง
แห่งประเทศไทยเนี้ยมีการทำงานเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่ไม่รู้เกี่ยวกับการดำเนินงานก่อนหน้านั้นมากนัก
จึงทำให้อยากรู้ถึงการดำเนินงานก่อนหน้านั้นจนถึงการที่ประกาศใช้นโยบาย หน้าที่ของแบงค์ชาติหลักเลยก็คือ
ดูแลเสถียรภาพทั้ง 3 ด้าน
1.เสถียรภาพทางการเงิน ดูว่าเศรษฐกิจเติบโตได้เต็มที่ไหมและทำให้เกิดการสมดุลทางการเงิน
2.เสถียรภาพทางระบบสถาบันทางการเงิน ดูแลสถาบันการเงินที่มั่นคง บริหารความเสี่ยงได้ดี
มีประสิทธิภาพในการบริการ เช่นต้นทุนต่ำ เป็นต้น
3.เสถียรภาพทางระบบการชำระเงิน ระบบการาชำระเงินที่มั่นคงปลอดภัย สนับสนุนธุรกรรมการค้า
การชำระเงินรวดเร็ว คล่องตัว และมีต้นทุนต่ำ
เป้าหมายของเศรษฐกิจมหภาค
1.growth เศรษฐกิจมีความเจริญเติบโต
2.stable เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ
3.equitable เศรษฐกิจมีความเป็นธรรม ไม่เหลื่อมล้ำ
ค่ามิติของเงิน 3 มิติ 1.อัตราเงินเฟ้อ 2.อัตราการแลกเปลี่ยน 3.อัตราดอกเบี้ย
ปัจจุบันประเทศไทยยังเกิดสถานการณ์เงินเฟ้อขึ้นจึงจำเป็นต้องมีนโยบายต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางก รคลังหรือทางการเงิน แต่สิ่งที่เราสนใจเป็นเรื่องของนโยบายการเงินดังนั้นแบงค์ชาติจะควบคุมสถานการณ์นี้อย่างไรแบงค์ชาติมีการคาดการณ์เงินเฟ้อจากผู้บริโภคและผู้ผลิตโดยคาดการณ์จากราคาสินค้า การดำเนินนโยบายทางการเงินมีเงื่อนไขคือไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย 3 ด้านโดยสมบูรณ์พร้อมกันได้ 1.เงินทุนเคลื่อนย้ายเสรี 2.ควบคุมอัตราดอกเบี้ย 3.อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ การดำเนินนโยบายการเงินของไทยในปัจจุบันของไทยคือ กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อยืดหยุ่นและระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้การจัดการ เป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลางและเป้าหมายสำหรับปี 2567 คือ อัตราเงินเฟ้อยู่ที่ 1-3% หลักการของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยืดหยุ่น มีตัวเลขที่ชัดเจนคือ 1-3% มีความโปร่งใสและแสดงความรับผิดชอบคือ มีกระบวนการที่โปร่งใสตรงไปตรงมา ในกรณีที่ทำให้เงินเฟ้อออกนอกกรอบก็จะมีจดหมายเปิดผนึกเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีความยืดหยุ่นที่พียงพอคือ สามารถดูแลเสถียรภาพของราคา การขยายตัวของเศรษฐกิจ และเสถียรภาพของระบบการเงิน ส่งสัญญาณในการดำเนินนโยบายการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมีหลักและสามารถใช้เครื่องมืออื่นผสมผสานได้ การใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้การจัดการส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อนุญาตให้เงินบาทเคลื่อนไหวตามกลไกราคาตลาดไม่กำหนดระดับอัตราการแลกเปลี่ยนไว้ระดับใดอันดับหนึ่งแบงค์ชาติเข้าไปดูแลค่าเงินบาทในกรณีที่เงินบาทผันผวนเกินกว่าปกติซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่าเงินบาทไม่ควรเคลื่อนไหวต่างจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจเนื่องจากจะนำไปสู่ความบิดเบือนทางเศรษฐกิจและการเก็งกำไรค่าเงิน แบงค์ชาติมีระบบและเครื่องเพื่อติดตามตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดรวมทั้งพิจารณาความสามารถในการแข่งขันจากดัชนีค่าเงินบาทที่เทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง การศึกษาพบว่ากรอบเป้าหมายนี้ช่วยดูแลเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเหมาะสม การที่จะเกิดนโยบายการเงินต่างๆขึ้นมาต้องผ่านการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ผู้บริหารระดับสูงของแบงค์ชาติ 3 คนและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 4 คนมีการประชุม กนง. 6 ครั้งต่อปี วิเคราะห์จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ในการประชุม กนง. 6 ครั้งนี้ วันแรกประเมินเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ วันที่สองตัดสินนโยบายที่เหมาะสมต่อมาจะประกาศผลลงมติ 14.00 น.แถลงข่าวผลการประชุม 14.30 น. ต่อมาปรับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคีระยะ 1 วัน 2 สัปดาห์ต่อมา รายงานการประชุมฉบับย่อรายงานนโยบายการเงินจัดประชุมนักวิเคราะห์เป็นอันเสร็จสิ้น
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบค่ะ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา Macroecronomic Theory II คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นำเสนอโดย นางสาวเพ็ญพิชชา นันทชาติ รหัสนักศึกษา 651610322 นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่