3 Min

รัฐบาลทรัมป์เตรียม ‘เปิดเสรี AI’ ยุติระเบียบข้อบังคับทั้งหมด เพื่อให้อเมริกาเป็นผู้นำโลกด้านนี้

3 Min
8 Views
11 Aug 2025

ตลอดช่วงที่ผ่านมาเมื่อ AI เข้ามามีบทบาทกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น หุ้นทุกตัวที่เกี่ยวกับ AI ขึ้นเอาๆ ไปพร้อมกับที่ผู้คนตั้งคำถามมากขึ้นว่างานของตนจะถูก AI ‘แย่ง’ หรือไม่ ภาคธุรกิจต่างๆ ก็สู้ทางกฎหมายแบบหลังชนฝาเพื่อให้ธุรกิจตนเองรอดในยุค AI 

คำถามสำคัญของภาครัฐคือ รัฐจะ ‘กำกับดูแล’ AI อย่างไร? ฝั่งยุโรปมีคำตอบแล้วหลัง ‘AI Act’ สำหรับสหภาพยุโรปบังคับใช้เมื่อสิงหาคม 2024 คำถามคืออเมริกาจะว่าอย่างไร?

แล้วรัฐบาลทรัมป์ก็มีคำตอบแล้วในร่างแผนการ AI Action Plan ที่ประกาศออกมาปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องใหญ่ในระดับโลกเลย แต่คนเห็นน้อยมาก เพราะไปสนใจเรื่อง ‘ภาษีนำเข้า’ ที่เส้นตายอยู่ที่สิ้นเดือนกรกฎาคม ว่าชาติไหนจะต่อรองได้เรตเท่าไรกันบ้าง (บ้านเรายิ่งไม่เห็น เพราะนอกจากเรื่องภาษีคนไปสนใจ ‘สงครามไทย-กัมพูชา’ กันอยู่) 

แผนการ 25 หน้า สรุปสั้นๆ ได้ว่า อเมริกาจะยุติระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ AI ทั้งหมด เพื่อให้อเมริกาพัฒนา AI เป็นหนึ่งเหนือชาติอื่น โดยเฉพาะจีน

แผนนี้เป็นไปตามไอเดียของฝั่งอิสรนิยม (libertarianism) ว่ารัฐคืออุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ และหนทางเดียวที่จะทำให้เทคโนโลยีมีพัฒนาการได้เต็มที่ และเศรษฐกิจพัฒนาได้เต็มที่ตามมา ก็คือรัฐต้องยุติระเบียบข้อบังคับทางเทคโนโลยีทั้งหมด

อธิบายง่ายๆ นี่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับยุโรปที่วางมาตรฐานว่าธุรกิจ AI ต้องไม่ไปละเมิดคุณค่าอื่นๆ ที่สังคมยึดถือและมีความปลอดภัย อเมริกาวางแผนให้ AI พัฒนาได้เต็มที่ โดยไม่ต้องห่วงความปลอดภัยหรือคุณค่าใดๆ เพราะนั่นคือราคาที่ต้องจ่ายในการเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจ AI อันดับ 1 ของโลก ซึ่งนั่นคือ ‘อำนาจ’ ในการกำหนดระเบียบ AI ทั้งโลกในภายภาคหน้า

และถ้าถามว่าอเมริกาตั้งภาษีบ้าๆ แบบที่เป็นข่าว อเมริกาจะค้าขายกับใคร? จะเป็นมหาอำนาจต่อไปได้อย่างไร? ที่จริง AI Action Plan คือคำตอบ ไอเดียคือให้อเมริกาเป็นแหล่งผลิตเทคโนโลยีที่ใช้ทั้งโลก ที่เหนือกว่าชาติใด ต่อให้คุณไม่อยากค้าขายกับอเมริกา คุณก็ต้องซื้อเทคโนโลยีจากอเมริกาหรือบริษัทอเมริกันอยู่ดี

แน่นอน เรื่องพวกนี้มันสมเหตุสมผลมากๆ จากจุดยืนทางการเมืองของทรัมป์และคณะ แต่สำหรับคนจำนวนมากนี่คือเรื่องชวนขนลุก

ต้องบอกว่า ณ ปี 2025 ทุกฝ่ายแบบทุกฝ่ายจริงๆ เชื่อแล้วว่า AI กำลังจะเปลี่ยนชีวิตมนุษย์ทั้งโลก และการใช้มันอย่างไม่ระวังนี่อาจส่งผลร้ายได้แน่ๆ การคุยกับ ChatGPT ทำให้คนไปทำอะไรเพี้ยนๆ ที่อันตรายถึงชีวิตได้ ภาพหรือคลิปปลอมที่สร้างโดย AI สักตัวก็ทำให้คนจำนวนมากไขว้เขวทางการเมืองแบบเป็นตุเป็นตะได้แน่นอน การให้ AI ขับรถให้แล้วบังเอิญไปชนคน ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าใครจะเป็นคนผิด ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่นับเรื่องประเด็นพื้นๆ ที่ยังคุยกันไม่จบอย่างการ ‘แย่งงาน’ ของ AI ที่ต่างกันไปในแต่ละอาชีพ รวมถึงคำถามด้านพลังงานที่การใช้ AI ในสเกลใหญ่มันหมายถึงการใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาลยิ่งกว่าตอนนี้ ซึ่งคนก็ถามว่ามันจะไปพร้อมกับความต้องการลดการใช้พลังงานเพื่อลดโลกร้อนได้ยังไง?

คำตอบของรัฐบาลทรัมป์คือก็ไม่ต้องสนใจ ให้มันเป็นไปตามกฎหมายที่มี ไม่ต้องมีอะไรเพิ่ม ส่วนประเด็นที่งงๆ ว่าผิดหรือไม่ผิด ถ้าว่าตามหลักกฎหมายอเมริกาก็คือ ถ้ากฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ชัดเจน ก็ต้องถือว่าทำได้ โดยรัฐบางก็กำชับหน่วยงานต่างๆ ว่าให้มีการปรับกฎระเบียบส่วนที่ยังคลุมเครือให้เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ด้วย

ทั้งหมดนี้ทำให้นักกิจกรรม ‘หัวก้าวหน้า’ ด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมขนลุกกันเป็นแถบๆ เพราะสำหรับคนเหล่านี้ สิ่งที่ทรัมป์ทำ ภายหลังถ้อยคำสวยหรู ที่จริงมันคือการมอบอเมริกาให้เหล่า ‘บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่’ ปกครอง เพราะพวกนี้คือ ‘เจ้าของ’ AI และรัฐก็ปล่อยให้สิ่งที่ฉลาดและมีศักยภาพอย่าง AI เป็นอิสระภายใต้การควบคุมของบริษัทพวกนี้อยู่ดี

แน่นอนว่าฝั่งทำเนียบขาวก็โต้ว่า ถ้าอเมริกาไม่ทำแบบนี้ ทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงของอเมริกาจะถดถอย เพราะมันจะทำให้ AI ฝั่งจีนก้าวหน้ากว่าฝั่งอเมริกา ดังนั้นมันเป็นสิ่งที่ต่องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วใครตามเรื่องพวกนี้ทั้งหมดมา มันไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย และหลายคนก็รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างอีลอน มัสก์ เข้าร่วมรัฐบาลตอนแรก สิ่งที่ต้องการจริงไม่ใช่แค่ ‘ตัดงบ’ ภาครัฐ แต่ต้องการสร้างหลักประกันว่ารัฐจะไม่ออกกฎหมายขวางการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของบริษัท

ทุกอย่างไม่ผิดโผ เกิดขึ้นเงียบๆ แต่ประวัติศาสตร์ก็อาจต้องจารึกเอาไว้ว่านี่เป็น ‘จุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง’ ที่บริษัทเทคโนโลยีจะเดินหน้าพัฒนา AI ได้อย่างไม่ต้องลังเลใดๆ อีก เพราะรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาได้แสดงเจตจำนงเด่นชัดแล้วว่าจะ ‘ปล่อยเสรี’

มันอาจไม่ได้ส่งผลในเดือนสองเดือน แต่สักปี 2030 ถ้ามองย้อนมาตอนนี้ เราก็น่าจะมองเห็นแน่ๆ ว่าบางอย่างที่ใหญ่โตมากๆ ได้เกิดขึ้น และมันเกิดขึ้นจาก ‘จุดเริ่มต้น’ ที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็น 

อ้างอิง:

  • Ars Technica. White House unveils sweeping plan to “win” global AI race through deregulation. https://shorter.me/-_LFu